ปี 2015 ถือเป็นปีที่มีการเปิดตัวสินค้าในหมวดหมู่ใหม่ มีฮาร์ดแวร์จำนวนมากที่แอปเปิลบุกตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ ซึ่งนานมาแล้วที่แอปเปิลไม่ได้รุกหนักในทุกตลาดขนาดนี้มาก่อน
ทีมงาน MacThai ได้รวบรวมเรื่องราวที่สุดของแอปเปิลในปี 2015 นี้ โดยจะนำเสนอเป็นบทความ MacThai Year In Review จำนวน 3 ตอนจบ ซึ่งท่านที่ติดตามกันมาตลอดทั้งปี การได้อ่านบทสรุปก็ถือว่าน่าสนุกไม่น้อยเช่นเดียวกัน

10. เปิดตัว MacBook รุ่นของบาง ก้าวใหม่สำหรับโน้ตบุ้คของ Apple
MacBook ถือเป็นสินค้าที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอัพเดทมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในครั้งนี้แอปเปิลได้ทำการแตกประเภทของโน้ตบุ้คเพิ่มขึ้นมาอีก จากเดิม MacBook Pro และ MacBook Air มาตอนนี้ได้มีการเพิ่ม MacBook (เฉยๆ) ขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง
ด้วยดีไซน์ที่บางโคตรบาง สีทองที่เพิ่มเข้ามาใหม่ สเป็คเครื่องที่แรงใช้ได้ ก็ทำให้เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร แต่ที่ถูกวิจารณ์กันมากคือเรื่องพอร์ทที่มี USB-C มารูเดียว ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับหลายคน และราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร
แต่แอปเปิลบอกนี่คืออนาคตของโน้ตบุ้ค เช่นเดียวกับเมื่อครั้งเปิดตัว MacBook Air รุ่นแรก ซึ่งก็ตัดหลายสิ่งออกไป แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็หลายเป็น MacBook Air ที่ทรงประสิทธิภาพ ต้องรอดูว่า MacBook รุ่นขอบบาง จะพัฒนาตัวเองจนขึ้นมาเป็นสินค้าที่ทุกคนหลงรักได้หลังจากนี้หรือเปล่า
We challenge ourselves to reinvent the notebook. And we did it. This is the future of notebook.
– Tim Cook

9. Apple เปิดตัวแอพบน Android ครั้งแรก และโดนสาวกหุ่นเขียวถล่ม
ดูเหมือนคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของแอปเปิลยังคงเป็นกูเกิล ซึ่งในขณะที่กูเกิลทำแอพจำนวนมากให้ระบบ iOS แต่แอปเปิลกลับไม่เคยทำแอพใดๆ ลงในระบบ Android เลย
แต่มาในปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลเปิดตัวแอพบน Android โดยแอพแรกคือ “Move To iOS” ซึ่งเป็นแอพที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android ย้ายข้อมูลมาบน iOS ได้ง่ายขึ้น ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากสาวกหุ่นเขียว ด้วยการถล่มจัด 1 ดาวให้พร้อมคอมเม้นต์มันๆ อีกเพียบ !!
ต่อมาแอปเปิลก็เปิดตัว Apple Music บน Android พร้อมให้ใช้งานได้ฟรี 3 เดือนเช่นเดียวกัน ซึ่งรอบนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีกว่าที่คิด พร้อมยอดโหลดทะลุล้านในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น ดูเหมือนการทำลายกำแพงของระบบครั้งนี้ จะส่งผลดีกับผู้ใช้ทั้งสองระบบอย่างแท้จริง
ผู้ที่ใช้ Android สามารถดาวน์โหลดและทดลองใช้งาน Apple Music ได้ 3 เดือน โดยราคาของผู้ใช้แอนดรอยแบบส่วนบุคคลจะอยู่ที่ 4.99 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามผู้ใช้แอนดรอยก็สามารถสมัครแพคเกจแบบ Family Sharing ได้เช่นกัน แต่จะต้องทำการสมัครใช้งานบน iOS และ Mac ก่อน โดยราคาอยู่ที่ 7.99 ดอลลาร์
Move to iOS เป็นแอพสำหรับช่วยย้ายข้อมูลที่สำคัญจากสมาร์ทโฟน Android เพื่อไปไว้ในอุปกรณ์ iOS เครื่องใหม่ได้สะดวกง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข้อความ, รายชื่อติดต่อ, บัญชีกูเกิล หรือบุ๊คมาร์ค
ทั้งนี้แอพ Move to iOS รองรับ Android ตั้งแต่เวอร์ชัน 4.0 ขึ้นไป ส่วน iOS ที่จะย้ายมาต้องเป็นเวอร์ชัน 9.0 ขึ้นไปด้วย
8. “ถ้าไม่ใช่ iPhone ยังไงก็ไม่ใช่ iPhone”
โดยปกติแล้วแอปเปิลจะทุ่มลงโฆษณาในไทยเฉพาะช่วงที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่เท่านั้น แต่ในปีนี้แอปเปิลกลับทุ่มลงโฆษณาและสื่อต่างๆ ในไทยตลอดทั้งปี
เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่มีการเปิดตัวป้ายโฆษณาชุด “ถ่ายด้วย iPhone 6” จนมีภาพสวยๆ ติดทั่วกรุงเทพ เพื่อโชว์ความสวยงามของภาพที่ได้จากกล้องบน iPhone 6
ต่อมาช่วงกลางปีแอปเปิลก็ได้เปิดตัวโฆษณาทางทีวี ซึ่งมาพร้อมประโยคยอดฮิตที่ติดหูมากนั่นคือ “ถ้าไม่ใช่ iPhone ยังไงก็ไม่ใช่ iPhone” ซึ่งประโยคนี้ฮิตขนาดที่เมื่อมีข่าวจากฝั่งคู่แข่งเมื่อไหร่ สาวกก็พร้อมใจเข้าไปคอมเม้นต์พร้อมกันด้วยประโยคดังกล่าว
ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่แอปเปิลเริ่มบุกตลาดไทยมากขึ้นเรื่อยๆ น่าสนใจว่าก้าวต่อไปหลังจากนี้คืออะไร …. Apple Store ?

7. Apple Watch สินค้า Wearable ตัวแรกของบริษัท
ในที่สุดแอปเปิลก็เปิดตัวสินค้าหมวดหมู่ใหม่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี นั่นก็คือ Apple Watch ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่เปิดตัวได้ร้อนแรงจนปีแรกก็ขึ้นอันดับ 1 ส่วนแบ่งตลาด Wearable ได้สำเร็จ
แต่จากยอดขายที่ร้อนแรง ก็เต็มไปด้วยคำวิจารณ์ที่หลากหลาย ทั้งเรื่องความสามารถที่จำกัด ต้องใช้คู่กับ iPhone เท่านั้น ราคาที่สูง รวมถึงแบตที่อยู่ได้แค่วันเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ดี Apple Watch ถือเป็นสินค้าในหมวดหมู่ใหม่ที่ขายได้มากที่สุดของแอปเปิล เมื่อเทียบกับปีแรกของ iPhone, iPad หรือ iPod คาดว่าปีหน้าเราน่าจะได้เห็น Apple Watch 2 ซึ่งน่าจะออกมาแก้จุดอ่อนของรุ่นแรกไม่มากก็น้อย
สามารถอ่าน รีวิว: Apple Watch แบบละเอียดยิบ ได้ที่นี่



6. Apple ขึ้นราคาสินค้าในไทย 10-15%
ถือเป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนลงอย่างมาก ทำให้แอปเปิลตัดสินใจขึ้นราคาสินค้าที่ขายในเมืองไทยกว่า 10-15% ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สินค้าหลายอย่างที่คนมองว่าราคาสูงอยู่แล้วยิ่งสูงขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะ iPhone 6s ที่เปิดขายในราคา 26,900 บาท ถือว่าเป็นราคาไอโฟนที่แพงสุดตั้งแต่เคยขายในเมืองไทยมา จนส่งผลให้ยอดขาย iPhone 6s ในไทยกลับไม่ร้อนแรงอย่างที่หลายฝ่ายคาดคิด
อย่างไรก็ดีทั้งค่ายมือถือและตัวแทนจำหน่ายสินค้าของแอปเปิลในไทยอย่าง iStudio ก็พยายามเร่งจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมที่มากขึ้น จนบางโปรก็ไม่เคยเห็นลดราคากันมากขนาดนี้มาก่อน ต้องรอดูว่าปีหน้าจะมีการอัดโปรแรงๆ ให้เราได้ซื้อสินค้าของแอปเปิลอย่างสบายกระเป๋ามากขึ้นหรือไม่

5. Apple TV ใหม่ ที่ไม่ฮือฮาอย่างที่คิด
สินค้าที่แอปเปิลบอกเสมอว่าทำเป็นงานอดิเรกอย่าง Apple TV มาในปีนี้ได้อัพตัวเองขึ้นมาเป็นสินค้าหลักอย่างเต็มตัว พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ฮาร์ดแวร์ใหม่ พร้อมดีลสำคัญๆ กับผู้ผลิตรายการทีวี
ด้วยรีโมทที่รองรับการสัมผัส, สั่งงานได้ด้วย Siri, มาพร้อมกับ App Store ลงแอพและเกมเพิ่มได้ แต่ก็มาพร้อมราคาที่สูงกว่ารุ่นเดิมมาก (ราคาไทยเริ่มที่ 8,500 บาท)
แม้แอปเปิลจะเน้นที่ Apple TV ใหม่แค่ไหน แต่หลายฝ่ายก็ยังมองว่ายังขาดจุดที่จะเปลี่ยนแปลงวงการได้ ไม่ว่าจะเป็นแอพที่ยังไม่ได้เยอะมากนัก ผู้ผลิตเนื้อหารายการทีวีที่เข้าร่วมยังขาดแม่เหล็กสำคัญ ซึ่งจากข่าวลือที่ผู้ผลิตรายการทีวีหลายรายไม่ขอเข้าร่วมวงกับแอปเปิลก็ทำให้ Apple TV ใหม่ดูจะสะดุดไม่น้อย

4. Apple Music เปิดตัวพร้อมกับดราม่าสนั่นวงการ
แอปเปิลครองอันดับ 1 ผู้จำหน่ายเพลงออนไลน์มาเป็นเวลานานหลายปี แต่ช่วงหลังธุรกิจการฟังเพลงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นระบบสมัครสมาชิกมากขึ้น ซึ่ง Apple Music ก็ถือเป็นบริการที่แอปเปิลทุ่มลงไปมาก ทั้งจากการซื้อบริษัท Beats Electronic และการเจรจากับค่ายเพลงตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ดีในช่วงเปิดตัวก็ปรากฏว่ามีดราม่าเมื่อ Taylor Swift เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงกรณีที่ Apple Music ไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับศิลปินในช่วงที่ใช้งานฟรีถึง 3 เดือน จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
แต่สุดท้ายดูเหมือนข่าวนี้กลับกลายเป็นการโปรโมท Apple Music ให้คนทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้นไปซะอีก เพราะหลังจากนั้นแค่วันเดียวแอปเปิลก็ประกาศจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ศิลปินทันที พร้อมกับ Taylor Swift เองก็ส่งอัลบั้มใหม่ และวิดีโอคอนเสิร์ตแบบ Exclusive มาลงเฉพาะบน Apple Music ซะงั้น
3. เคสปูด และสินค้าดีไซน์แปลกจาก Apple ในปี 2015
เหมือนจะจบปีไปแบบไม่น่ามีอะไร แต่แล้วอยู่ดีๆ แอปเปิลก็เปิดตัว Apple Smart Battery Case ซึ่งเป็นเคสที่มาพร้อมแบตเตอรี่ตัวแรกของแอปเปิล ซึ่งสิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาไม่ใช่เพราะความสามารถของมัน แต่กลับเป็นดีไซน์ที่แปลกประหลาด จนได้ฉายาว่า “เคสปูด”
หลังจากนั้นก็เริ่มมีการขุดสินค้าดีไซน์ประหลาดของแอปเปิลขึ้นมาอีก ซึ่งมีทั้ง Magic Mouse 2 ที่เวลาชาร์จไฟต้องคว่ำตัวเครื่องและใช้งานอะไรต่อไม่ได้, Apple Pencil ที่ชาร์จเสียบกับ iPad จนเสียวจะหัก ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดจะเปิดตัวมาในปี 2015 เพียงปีเดียว
ถือว่าเป็นการเสียฟอร์มพอสมควรเลยกับบริษัทที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งการดีไซน์สินค้ามาโดยตลอดอย่างแอปเปิล ไม่รู้ว่าเป็นผลจากการที่ Jony Ive เลื่อนตำแหน่งไปดูดีไซน์ระดับองค์กรมากเกินไป จนลืมดูแลสินค้าในบริษัทหรือเปล่า



2. เปิดตัว iPad Pro ก้าวแรกสู่แท็บเล็ตที่ใช้ทำงานได้
เป็นข่าวลือมานานข้ามปี ในที่สุดแอปเปิลก็ได้ทำการเปิดตัว iPad Pro แท็บเล็ตขนาดจอ 12.9 นิ้วที่ถือว่าใหญ่มากๆ เทียบเท่าโน้ตบุ้ค, สเป็คเครื่องสุดแรง พร้อมอุปกรณ์เสริมทั้ง Apple Pencil และ Smart Keyboard
การมาของ iPad Pro ทำให้แอปเปิลมีแท็บเล็ตที่เหมาะสำหรับใช้ทำงานได้เพื่อสู้กับ Microsoft Surface โดยตรง นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับ iPad เข้าไปสู่การใช้งานในระดับ Professional มากขึ้น
ซึ่งคะแนนรีวิว iPad Pro จากหลายสำนักก็ออกมาดีเยี่ยมอย่างที่แอปเปิลคุยไว้ จะมีเพียงตัวแอพที่ยังไม่ถึงกับทดแทนโปรแกรมสำนักงานหลายๆ อย่างได้ แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกของแอปเปิลในตลาดนี้ที่ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด
อ่านเพิ่ม – พรีวิว iPad Pro


1. iPhone 6s สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือทุกสิ่ง
แม้จะมีข่าวฮือฮาข่าวดราม่ามากน้อยแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วข่าวที่ฮือฮาและได้รับความสนใจมากที่สุดของแอปเปิล ยังคงเป็น iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ทั้งยอดการชม ยอดการค้นหาที่เป็นอันดับ 1 บนกูเกิลในหมวดสินค้าไอที
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 6s ด้วยดีไซน์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่แม้ภายนอกจะดูเหมือนเดิม แต่ทุกสิ่งที่อยู่ในตัวเครื่องได้เปลี่ยนไปจนหมด ไม่ว่าจะเป็นเคสอะลูมิเนียมใหม่ ทนกว่าเดิม, กล้องหน้า 5 ล้าน กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล, สีชมพู Rose Gold ที่สวยกว่าที่คิด, ชิป A9 ที่ผลทดสอบเร็วกว่ามือถือ Android ทุกตัวในตอนนี้ และหน้าจอ 3D Touch ที่ล้ำหน้ากว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตลาด
แม้ยอดขายจะไม่ได้แรงอย่างที่หลายฝ่ายคาดคิด แต่ก็ยังถือเป็นไอโฟนรุ่น S ที่ขายดีที่สุด และส่งไม้ต่อไปยัง iPhone 7 ที่จะเปิดตัวในปีถัดไปได้อย่างดี
เรียบเรียงโดย
ทีมงาน MacThai