สรุปทุกข้อสงสัย iPhone, iPad, Apple Watch จอแตกทำยังไง, ติดต่อใคร, ค่าซ่อมเท่าไหร่ ??

how-to-do-after-display-of-iphone-ipad-apple-watch-are-broken

สำหรับผู้ใช้ iPhone, iPad, iPod และ Apple Watch ที่หลาย ๆ คนต้องพบเจอก็คือ ปัญหาหน้าจอแตก ซึ่งเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ที่มีคนถามเข้ามาเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้ทีมงาน MacThai จะมาสรุปวิธีการ ขั้นตอน และตอบทุกข้อสงสัยว่า ถ้าจอแตกแล้วจะทำยังไง ?

0) ก่อนที่จอจะแตก ก็ควรป้องกันมันไม่ให้แตกก่อน

เชื่อว่าทุกคนไม่อยากจะให้จอแตก เพราะฉะนั้นก่อนที่มันจะแตก เราก็ควรหาอะไรมาปกป้อง ป้องกันไม่ให้มันแตกซะก่อน อย่างแรกเลยที่ทุกคนคิดได้คือ “ซื้อเคสมาใส่” ถูกต้องครับ หาเคสมาใส่ ซึ่งการเลือกซื้อเคสก็จะต้องให้เหมาะกับเรา เช่น ต้องเลือกที่ถือแล้วจับถนัดมือ ไม่ลื่น ไม่เทอะทะ เวลาถือจะได้ไม่หลุดมือ

how-to-do-after-display-of-iphone-ipad-apple-watch-are-broken-1

อย่างที่สองก็คือ ควรหาฟิล์มกันกระแทกมาติด และก็ควรหาฟิล์มที่มันคลุมไปถึงขอบจอเต็มแผ่น และฟิล์มก็ควรที่จะพอดีกับเคสของเรา คือปกป้องตัวเครื่องแบบ 360 องศา และก็ควรเลือกฟิล์มที่มีคุณภาพนิดนึง ไม่ใช่พอหล่นแล้วฟิล์มก็แตก หน้าจอของเราก็แตกตามไปด้วย

how-to-do-after-display-of-iphone-ipad-apple-watch-are-broken-2

นอกจากจะติดฟิล์ม ใส่เคสแล้ว การถือไอโฟนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าถือไม่ดีก็อาจจะทำให้หล่นได้ สำหรับเทคนิคที่แอดชอบทำ เวลาถือไอโฟนไม่ว่าจะจอใหญ่แค่ไหน ก็ทำให้ไม่หล่นได้ คือ “นำนิ้วก้อยมารองใต้เครื่อง” ซึ่งมันจำทำให้การถือไอโฟนของเรามั่นคงขึ้น ป้องกันการหล่น ซึ่งถือได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน Selfie สุดแขน สบาย ๆ ไม่ห่วงเครื่องหล่น

how-to-do-after-display-of-iphone-ipad-apple-watch-are-broken-3

 

1) ถ้าจอแตกไปแล้ว ตั้งสติและเตรียมส่งเครื่องเคลม

สำหรับคนที่จอแตกไปแล้ว ไม่ว่าเครื่องจะยังมีประกันอยู่ หรือหมดประกันไปแล้ว ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเคลม เพราะถือว่า ไม่ได้เกิดจากเครื่องผิดปกติ เราทำหล่นเอง ประกันไม่ครอบคลุมจุดนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องทำใจยอมเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนจอ หรือเปลี่ยนเครื่อง

 

2) รวมราคาเปลี่ยนจอ และเปลี่ยนเครื่องใหม่

สำหรับการเปลี่ยนจอตอนนี้มีเพียงแค่ไอโฟนเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนหน้าจอได้ โดยมีราคาค่าเคลม ดังนี้

  • เปลี่ยนหน้าจอ iPhone 5 / 5c / 5s / SE / 6 / 6s / 7 ราคา 5,000 บาท
  • เปลี่ยนหน้าจอ iPhone 6 Plus / 6s Plus / 7 Plus ราคา 5,500 บาท

ส่วน iPad, Apple Watch และ iPod ไม่มีโปรแกรมการเปลี่ยนหน้าจอเหมือนไอโฟน เพราะฉะนั้นจะต้องเสียค่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบราคาของรุ่นที่เราใช้อยู่ได้ ที่นี่

cost-for-claim-iphone-ipad-ipod-apple-watch

 

3) แล้วจะต้องไปเคลมที่ไหน ??

สำหรับการเคลมเครื่อง แอดมินแนะนำให้ส่งเข้าศูนย์บริการ Apple Authorized Service Provider (AASP) ได้ทั่วประเทศได้โดยตรง ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบ ตำแหน่ง เบอร์โทรศัพท์สาขาที่ใกล้ที่สุดได้จากเว็บไซต์นี้ https://locate.apple.com/th/th/

เมื่อเข้าไปแล้ว ให้กดเข้าไปที่ “บริการ” ตรงกลางจากนั้นเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเคลมและกด “ไป” หลังจากนั้นก็จะแสดงตำแหน่งสาขาที่เปิดรับเคลมทั้งหมด ซึ่งจะมีเบอร์โทรศัพท์โทรไปสอบถามได้

aasp-claim-iphone-6s-from-apple-online-store-1

 

4) ก่อนนำเครื่องส่งเข้าเคลม ควร Backup ข้อมูลของเราก่อน

สิ่งที่ควรทำอันดับแรกก่อนที่จะส่งเครื่องเข้าเคลม ก็คือการ Backup ข้อมูลทั้งหมดเสียก่อน ซึ่งมีสองวิธีก็คือ Backup ผ่าน iCloud หรือว่าผ่าน iTunes ซึ่งสามารถอ่านวิธีการ Backup ทั้งสองแบบได้ ที่นี่

how-to-backup-ios
how-to-backup-ios

5) ตอนเคลม ต้องรอกี่วัน นานมั้ย ?

โดยปกติแล้ว แอปเปิลจะใช้เวลาในการเคลมเครื่องใหม่หรือซ่อมประมาณ 14 วันทำการ หลังจากที่รับตัวเครื่องไป ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเครื่องของเราซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องเสร็จแล้ว ทาง AASP จะเป็นคนติดต่อเรามาให้ไปรับเครื่อง ทั้งนี้ระยะเวลาขึ้นอยู่กับทาง AASP

 

6) แล้วไปซ่อมตามร้านตู้ได้มั้ย ?

หลาย ๆ คนอาจจะบ่นว่าค่าเปลี่ยนจอ เปลี่ยนเคลมที่ศูนย์แอปเปิลมันแพงเหลือเกิน เราสามารถไปเปลี่ยนจอที่ร้านตู้ได้มั้ย แอดขอตอบว่า “ได้ แต่ไม่แนะนำ” เพราะว่าถ้าเครื่องของเรายังไม่หมดประกัน ถ้าเรานำไปเปลี่ยนเอง โดยไม่ผ่านแอปเปิล ถ้าแอปเปิลจับได้จะทำให้ประกันของเราหมดทันที เพราะแอปเปิลไม่อนุญาตให้เราแกะเครื่องเอง ถ้าไม่ใช่พนักงานหรือศูนย์ที่แอปเปิลได้รับอนุญาตและผ่านการรับรอง แต่ถ้าใครรับผลเสียข้อนี้ได้ แอดก็ไม่ขัด

 

เรียบเรียงโดย
ทีมงาน MacThai