iPhone 17 Pro มาพร้อม 3 ฟีเจอร์นี้ที่สาวก Apple เรียกร้องมานาน!
หลังจากที่แอปเปิดได้เปิดตัวและเปิดพรีออเดอร์ iPhone 17 ซีรีส์ไป ก็พบว่า iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max นั้นได้รับความนิยมมากกว่าที่คิด ต่อให้ช่วงก่อนเปิดตัวจะโฟกัสไปที่ iPhone Air ก็ตาม แต่รุ่น Pro นั้นมีการอัปเกรดฟีเจอร์ที่เหล่าสาวกเรียกร้องและอยากให้แอปเปิลมีมานานแล้วนั่นเอง
เริ่มจากการที่ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีการอัปเกรดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนไอโฟน ซึ่งไม่ได้เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างเดียว แต่ยังเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่อย่างมหาศาลอีกด้วย ซึ่งสามารถเทียบกันได้กับรุ่นก่อนหน้าได้ชัดเจน
- iPhone 16 Pro: เล่นวิดีโอได้ 27 ชั่วโมง
- iPhone 17 Pro: เล่นวิดีโอได้ 33 ชั่วโมง (เทียบเท่า iPhone 16 Pro Max)
- iPhone 16 Pro Max: เล่นวิดีโอได้ 33 ชั่วโมง
- iPhone 17 Pro Max: เล่นวิดีโอได้ 39 ชั่วโมง
โดย iPhone 17 Pro รุ่นรองพรีเมียมลงมานั้น สามารถเทียบเท่าการใช้งานแบตเตอรี่กับ iPhone 16 Pro Max รุ่นพรีเมียมที่สุดของปีที่แล้วได้สบาย เลยนับเป็นจุดอัปเกรดที่น่าจะถูกใจคนที่อยากใช้สมาร์ตโฟนนาน ๆ โดยไม่ต้องชาร์จ และรุ่น Pro Max ก็มักจะครองตำแหน่งประสิทธิภาพแบตเตอรี่มาตลอด
รองลงมาก็คือเรื่องการอัปเกรดดีไซน์ ที่ดีไซน์ส่วนใหญ่ของไอโฟนถ้าดูจากความแตกต่างแล้วก็น่าจะหยุดพัฒนาเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ถ้าไม่นับ iPhone Air ที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวเครื่องที่บางเฉียบอย่างชัดเจน iPhone 17 Pro Max ก็นับว่ามีดีไซน์ที่น่าสนใจเช่นกัน
เพราะนับตั้งแต่ iPhone 11 Pro เปิดตัวกล้องสามตัวรุ่นแรกในปี 2018 ดีไซน์ของไอโฟน ก็แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ยกเว้นขอบด้านข้างที่แบนราบลงของ iPhone 12 และการเพิ่มวัสดุไทเทเนียมใน iPhone 15 Pro กับตัวกล้องด้านหลังที่ดูเหมือนจะมีความนูนเพิ่มขึ้นทุกปี
แต่ปีนี้ iPhone 17 Pro ก็เลือกใช้สีสันสดใสใหม่กว่าเดิม โดยเฉพาะ Cosmic Orange และการเปิดตัวกล้องถ่ายภาพรุ่นใหม่ควบคู่กัน ก็ทำให้ไอโฟนรุ่นนี้ดูเหมือนเป็นไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทำถึงจริงมากขึ้นและเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเรื่องการอัปเกรดกล้อง
เพราะแอปเปิลมักจะมีการพัฒนาให้ดีขึ้นเสมอในทุก ๆ ปี โดยการเพิ่มโหมดกล้องใหม่เข้ามา และโหมดวิดีโอ รวมถึงการอัปเกรดซ็นเซอร์ 48MP ล่าสุดด้วย โดยฟีเจอร์ กล้องหน้า Center Stage นั้นได้รับความนิยมมาก ไปจนถึงกล้อง Telephoto ใหม่ พร้อมซูม 4x และ 8x และการปรับปรุงเลนส์ Ultra Wide แบบ ‘Fusion’ นั่นเอง
และโดยสรุปแล้วจากทั้ง 3 ฟีเจอร์อย่างแบตเตอรี่ ดีไซน์ และกล้อง ก็ถือเป็นปัจจัยหลังสำคัญที่ทำให้เหล่าสาวกตัดสินใจซื้อไอโฟนรุ่นนี้ได้ง่ายขึ้น และเป็นตัวเลือกการอัปเกรดที่น่าสนใจแม้ว่า iPhone Air จะดึงดูดผู้ใช้บางกลุ่มไม่น้อยเลยเหมือนกัน แต่สำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่แล้ว iPhone 17 Pro น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า