ย้อนอดีต Apple! เคยเปิดตัวโปรดักต์รุ่นเก๋าไม่เหมือนใครปี 1990

ในช่วงต้นไปจนถึงกลางปี 1990 นับเป็นปีที่แอปเปิลได้เปิดตัยโปรดักต์ที่ยูนีค และแปลกใหม่ในตลาดมาก ๆ ตั้งแต่เครื่องพิมพ์ ไปจนถึงกล้องดิจิทัล และเครื่องเล่นวิดีโอ จนกระทั่งสตีฟ จ็อบส์ได้ยกเลิกผลิตโปรดักต์เหล่านี้ทั้งหมด เมื่อเขากลับมาคุมแอปเปิลอีกครั้งในปี 1997 เพื่อเอาตัวรอดจากการล้มละลาย

ซึ่งในยุคนั้นก็มีโปรดักต์ที่น่าสนใจที่โดดเด่นอยู่ทั้ง QuickTake, Newton eMate 300, Studio Display, StyleWriter และ Pippin ที่เราไม่ได้เห็นอีกแล้วในยุคปัจจุบัน

Newton eMate 300

ในปี 1993 แอปเปิลได้เปิดตัว Newton MessagePad หรืออุปกรณ์ช่วยงานดิจิทัลส่วนบุคคล (PDA) ที่มีลักษณะคล้ายกับสมาร์ตโฟนยุคแรก ๆ ที่การออกแบบเรียบง่าย และมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขาวดำ 6.8 นิ้วที่ไวต่อแรงกด กับปากกาสไตลัส ที่ตัวเครื่องมีฟังก์ชันพื้นฐานในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปฏิทิน, รายชื่อผู้ติดต่อ, To do list และอีเมล เป็นต้น

และต่อมาแอปเปิลก็ได้ออกโปรดักต์หลายรุ่น รวมถึง eMate 300 ในปี 1996 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ระดับเริ่มต้นสำหรับเด็ก ๆ ใช้ในห้องเรียน และเป็นอุปกรณ์นิวตันเพียงรุ่นเดียวที่มีคีย์บอร์ดในตัว โดยตัวเครื่องทำจากพลาสติกสีสันสดใส แต่ทนทานคล้ายกับ iBook พร้อมใช้รับบนิวตันแทน MacOS

QuickTake

ในปี 1994 แอปเปิลได้เปิดตัว QuickTake ซึ่งเป็นหนึ่งในกล้องดิจิทัลรุ่นแรก ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าสาวกในตอนนั้น โดยออกแบบร่วมกับ Kodak ด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 1MB และสามารถเก็บภาพถ่ายได้มากถึงแปดภาพด้วยความละเอียด 640×480 พิกเซล พร้อมแฟลชในตัว

แต่ยังไม่มีระบบโฟกัสหรือซูมแบบแมนนวล ถึงแม้จะมีหน้าจอ LCD ขนาดเล็กสำหรับแสดงข้อมูลพื้นฐาน เช่น ระดับแบตเตอรี่ แต่ก็ไม่สามารถดูภาพตัวอย่างจากช่องมองภาพได้ และหลังจากนั้นแอปเปิลก็ได้เปิดตัว QuickTake 150 และ QuickTake 200 อีก 2 รุ่น 

โดยรุ่นหลังผลิตร่วมกับ Fujifilm และอัปเกรดการรองรับภาพถ่ายความละเอียดสูงถึง 1024×768 พิกเซล กับจอ LCD ขนาด 1.8 นิ้วพร้อมช่องมองภาพ และการ์ดหน่วยความจำแบบถอดได้ขนาด 2MB

และในช่วงเวลาที่ QuickTake เปิดตัว ผู้คนยังคงนิยมพิมพ์รูปถ่ายที่ร้าน ทำให้ความสามารถในการถ่ายโอนรูปถ่ายดิจิทัลไปยัง Mac หรือ PC จึงถือเป็นเรื่องใหม่มาก และแอปเปิลก็เจอคู่แข่งอย่างCanon, Nikon และ Sony แต่ท้ายที่สุดแล้วก็กลายเป็นสินค้าขายไม่ดี และไม่สามารถอยู่รอดหลังจากที่จ็อบส์ถูกถอดออกไปจากแอปเปิล

Pippin

ใครที่ไม่เคยรู้ก็จะได้รู้ว่าช่วงยุค 90 แอปเปิลเคยผลิตคอนโซลวิดีโอเกมมาก่อน โดย ร่วมมือกับ Bandai เปิดตัว Pippin หรือ PiPP!N ในปี 1996  เครื่องเล่นเกมคอนโซล PowerPC ที่ ออกแบบมาเพื่อเป็นลูกผสมระหว่างคอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่นวิดีโอเกม

โดยใช้ซอฟต์แวร์บน Macintosh System 7.5.2 ที่เกมต่าง ๆ ถูกโหลดลงในไดรฟ์ซีดีรอมในตัว แต่มีตัวเลือกจำกัดอยู่ จนท้ายที่สุดแล้ว PiPP!N ก็ล้มเหลว เนื่องจากทั้ง PlayStation ของ Sony และ Nintendo  นั้นมีราคาถูกกว่า และมีเกมให้เลือกเล่นมากกว่า

Studio Display

แม้จะรู้สึกว่าแอปเปิลพึ่งจะเปิดตัว Studio Display ไปเมื่อ 3 ปีก่อน แต่เป็นชื่อที่แอปเปิลใช้เรียกการต่อจอนอก และเปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 ซึ่ง Studio Display รุ่นดั้งเดิมมีดีไซน์โฉบเฉี่ยว

มาพร้อมหน้าจอ LCD แบบแบนขนาด 15 นิ้ว และอัตราส่วนภาพ 4:3 ความละเอียด 1024×768 พิกเซล ซึ่งต่างจากรุ่นปัจจุบันที่มีความละเอียด 5120×2880 พิกเซลอย่างมาก นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัว Studio Display เวอร์ชัน CRT ที่ใหญ่เทอะทะขึ้นในปี 1999 อีกด้วย

และยังเป็นโปรดักต์ที่แอปเปิลเปิดตัวไม่นานหลังจากที่จ็อบส์กลับมาทำงานที่แอปเปิลอีกครั้ง รวมถึงยังคงวางจำหน่ายอยู่จนถึงปี 2004 จนกระทั่งแอปเปิลเปลี่ยนไปใช้จอกว้าง Cinema Display อย่างเต็มรูปแบบในปี 2011

พร้อมเปลี่ยนไปใช้ Thunderbolt Display ซึ่งเลิกผลิตไปในปี 2016 ตามมาด้วยการเปิดตัว Pro Display XDR ในปี 2019 และ Studio Display รุ่นปัจจุบันในปี 2022

StyleWriter

เครื่องพิมพ์เป็นอีกโปรดักต์หนึ่งที่จ็อบส์เลิกผลิตเมื่อเขากลับมาทำงานที่แอปเปิล และก่อนหน้านั้นก็มีเครื่องพิมพ์หลายรุ่น รวมถึง ImageWriter ในปี 1982, LaserWriter ในปี 1985 และสุดท้าย StyleWriter ในปี 1991

โดย StyleWriter รุ่นดั้งเดิมเป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเครื่องแรกของแอปเปิลในขณะที่ ImageWriter เป็นเครื่องพิมพ์ดอทเมทริกซ์ และ LaserWriter เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์

แต่นับจากตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้วนับตั้งแต่เครื่องพิมพ์แบรนด์แอปเปิลออกสู่ตลาดครับ และจากโปรดักต์สุดยูนีคในยุค 90 ก็จะเห็นได้ว่าเส้นทางของแอปเปิลกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ก็ไม่ง่ายเลย

ที่มา – https://www.macrumors.com/2025/07/11/apple-in-the-1990s/