[ลือ] ก่อนอีเวนต์ WWDC ปีนี้ Apple จะอัปเดตอะไรบ้าง?!

อีกเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นที่อีเวนต์ WWDC 2025 จะถูกจัดขึ้น นั่นก็คือวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งก็มีลือมาถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นอกจากการประกาศเปิดตัว iOS 19, iPadOS 19, macOS 16, watchOS 12, tvOS 19, visionOS 3 และการอัปเดตซอฟต์แวร์อื่น ๆ รวมถึงฟีเจอร์ Apple Intelligence ใหม่ ๆ ด้วยครับ

Floating Tab Bar

iOS 19 คาดว่าจะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่ดูคล้ายกับระบบปฏิบัติการของ visionOS สำหรับ Vision Pro ของแอปเปิล โดย Jon Prosser จาก Front Page Tech เผยว่า iOS 19 จะมีดีไซน์ที่มีความโปร่ง และนูนมีมิติมากขึ้น รวมถึงแท็บก็จะลอยขึ้นมาได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การอัปเดต iOS 7 ครับ

Stage Manager

ในเดือนเมษยนที่ผ่านมา Majin Bu ได้อัปเดตมาว่า iOS 19 จะเปิดตัวการรองรับ Stage Manager อย่างน้อยหนึ่งเวอร์ชันบนไอโฟนเฉพาะรุ่นที่มี USB-C และจะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับจอแสดงผลภายนอกได้ นั่นก็คือตั้งแต่รุ่น iPhone 15 ขึ้นไป

และผู้ใช้ก็จะใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เฟซแบบ Stage Manager ได้เลย แต่อาจมีขัอจำกัดเยอะกว่า Stage Manager ของไอแพด

Battery Mode

iOS 19 จะมาพร้อมกับโหมดการจัดการแบตเตอรี่ด้วย AI พร้อมการวิเคราะห์การใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน สำหรับการปรับเปลี่ยน และประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น นำไปสู่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานขึ้น

End-to-End Encryption

เพราะแอปเปิลมีแพลนที่จะรองรับข้อความ RCS ที่เข้ารัสแบบ end-to-end ลงในแอป Messages ที่จะมาพร้อมกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS, iPadOS, macOS และ watchOS ในอนาคต ซึ่งน่าจะหมายถึง iOS 19, macOS 16 และการอัปเดตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย

ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขข้อความ, ยกเลิกการส่งข้อความ และป้องกันไม่ให้บุคคลที่สามสามารถอ่านข้อความและไฟล์แนบในขณะที่ส่งระหว่างอุปกรณ์ได้

Accessibility Features

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาแอปเปิลได้เพิ่มฟีเจอร์ Accessibility ใหม่ และจะมีการอัปเกรดขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็น

  • ขยายแอป Magnifier ไปยัง Mac และเชื่อมต่อกับไอโฟน หรือกล้อง USB เพื่อซูมเข้าและอ่านข้อความบนวัตถุรอบ ๆ ตัวได้
  • Vehicle Motion Cues กำลังขยายไปสู่ ​​Mac เพื่อช่วยลดอาการเมารถ
  • เครื่องมือ Accessibility Reader ใหม่สำหรับทั้งระบบบน iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro จะทำให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นหรือมีปัญหาในการอ่านข้อความสามารถอ่านได้ง่ายขึ้น
  • แปลแบบเรียลไทม์บน Apple Watch ที่สามารแปลสิ่งที่ไอโฟนได้ยินบนข้อมือ
  • Apple Vision Pro จะทำให้ผู้ใช้สามารถขยายทุกสิ่งที่อยู่ในภาพ รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ โดยใช้กล้องหลักของอุปกรณ์
  • Personal Voice จะเร็วขึ้น และใช้งานง่ายขึ้น เพราะสามารถสร้างเสียงที่นุ่มนวล และเป็นธรรมชาติมากขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีโดยใช้คำพูด และเสียงที่บันทึกไว้ประมาณ 10 ประโยคเท่านั้น
  • CarPlay จะรองรับตัวเลือกข้อความขนาดใหญ่ และการจดจำเสียงพร้อมระบุเสียงได้ เช่น เสียงไซเรน หรือเสียงทารกร้องไห้

Live Translate

AirPods จะมาพร้อมกับฟีเจอร์แปลแบบเรียลไทม์บน iOS 19 โดยจะฟังเสียงที่ได้ยิน และแปลไปยังไอโฟนได้ และน่าจะเสริมความสามารถนี้กับแอป Apple Translate ด้วย

ที่มา – https://www.macrumors.com/2025/05/26/wwdc-2025-ios-19-rumor-recap/