อีเวนต์ ‘WWDC’ ของ Apple กลายเป็นงานที่เปลี่ยนแปลงโลกมากที่สุด!
ตั้งแต่ปี 1983 มาจนถึงปัจจุบันอีเวนต์ WWDC หรือ Worldwide Developers Conference ก็กลายเป็นงานที่เปลี่ยนแปลงทั้งบริษัทของแอปเปิล และเปลี่ยนแปลงโลกไปแล้ว เนื่องด้วยการประกาศสิ่งสำคัญทางด้านเทคโนโลยีมากมาย ที่เป็นจุดเปลี่ยนของพฤติกรรมผู้คนไปด้วย
แม้จุดเปลี่ยนของแอปเปิลจะไม่ได้เกิดขึ้นที่นี่ เพราะประกาศเปิดตัวไอโฟนครั้งแรกที่เวที Macworld Expo ในซานฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนีย เช่นเดียวกับไอพอดก่อนหน้านั้น และ iMac รุ่นปี 1998 ที่ช่วยกอบกู้บริษัทไว้ได้
ซึ่ง WWDC อาจจะไม่ได้มีความสำคัญต่ออนาคตของแอปเปิลตลอดไปก็จริง แต่ก็เป็นอีกอีเวนต์ที่ได้ประกาศเรื่องราวสำคัญที่พร้อมจะเปลี่ยนโลกครั้งใหญ่อยู่เสมอ
ตั้งแต่ในปี 2007 บริษัท Apple Computer, Inc. เปลี่ยนชื่อเป็น Apple, Inc. หรือปี 2011 และปีสุดท้ายของ Steve Jobs ที่จัดงาน WWDC พร้อมกับประกาศเปิดตัว iCloud ด้วย
ถัดมาอีกปี 2013 ที่ Mac OS X Mavericks ก็เข้ามาแทนที่ หรือปี 2014 ที่มีการเปิดตัว Swift, ปี 2015 ที่มี Apple News และ Apple Music หรือปี 2016 เมื่อ OS X เปลี่ยนชื่อเป็น macOS
และเมื่อย้อนไปในปี 1983 Apple Independent Software Developers Conference ในตอนนั้น เปิดตัวด้วยการประกาศเกี่ยวกับภาษาการเขียนโปรแกรม Apple Basic แต่ Apple Basic ได้หายไปนานแล้ว และคอมพิวเตอร์ Apple II ที่ใช้ระบบนี้ก็ได้หายไปเช่นกัน แต่ถือเป็นการประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ครั้งแรกของแอปเปิลด้วย
ตั้งแต่นั้นมาแอปเปิลก็ได้จัดงานประจำปีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา และมักจะสงวนการประกาศสำคัญ ๆ ไว้เฉพาะในงาน Macworld Expo เท่านั้น จนกระทั่งในปี 2008 แอปเปิลประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมงานนี้ และในปี 2009 ก็ยุติการจัดงานอย่างเป็นทางการ
ทำให้ตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา งานดังกล่าวก็ถูกเรียกว่า WWDC หลังจากเปลี่ยนชื่อหลายครั้งจาก Apple Independent Software Developers Conference เป็น Apple World Conference และ DevCon ครับ
ต่อมาในปี 1997 สตีฟ จ็อบส์ก็กลับมา หลังาเคยพูดในงาน Macworld Expo เมื่อเดือนมกราคม 1997 ซึ่งถือเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาหลังจากกลับมาที่แอปเปิล ซึ่งอีเวนต์ WWDC ในปี 1997 ก็ได้มานั่งพูดคุยกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์แบบเป็นกันเองมากขึ้น
ต่อให้จะเป็นการพูดที่ตรงไปตรงมา และไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง แต่หลาย ๆ คนก็ยอมรับว่าจ็อบส์นั้นมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลแค่ไหน จนหลายสิบปีต่อมาเหล่าสาวกก็ยังคงย้อนกลับไปฟังคำพูดของจ็อบส์ที่บรรยายในปี 1997 อยู่เสมอ
มาถึงช่วง 2005 แอปเปิลก็กำลังเปลี่ยนเครื่อง Mac จากโปรเซสเซอร์ PowerPC รุ่นเก่าเป็นโปรเซสเซอร์ Intel นำโดย John Sculley ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ในขณะนั้น จนถูกเรียกว่าแอปเปิลกำลังจะผลิต “Mactels” แทนที่จะเป็น “Wintel” ซึ่งเป็นคำที่มักผสมระหว่าง Windows และ Intel นั่นเอง อีกทั้งคนอื่น ๆ ยังเกรงว่า Mac จะต้องติดสติ๊กเกอร์ที่เขียนว่า “Intel Inside” ด้วย
จนกระทั่ง 2008 แอปเปิลก็ได้เปิดตัวไอโฟน แม้ว่าจะไม่ได้เปิดตัวในงาน WWDC ก็ตาม และจ็อบส์ก็ยืนยันว่า นักพัฒนาควรสร้างเว็บแอปสำหรับไอโฟนแทน และแอปพื้นฐานจะต้องมาจากแอปเปิลเท่านั้น ทำให้ไอโฟนกลายเป็นโปรดักต์เปลี่ยนโลกไปเลย
และในปี 2020 นับตั้งแต่จ็อบส์ย้ายไปใช้ Intel อย่างจริงจัง ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะหันหลังให้กับ Intel และครั้งนี้ทิม คุกก็เป็นคนพาเราประกาศย้ายจาก Intel ไปใช้ Apple Silicon แทน และคุกเองก็ทำตามวิสัยทัศน์ของจ็อบส์ได้อย่างไม่ต้องสงสัยในอีเวนต์ WWDC ครั้งนี้
พร้อมสัญญาว่าจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์นี้ต่อไป แต่ไม่ว่าจะง่ายหรือยาก การเปลี่ยนแปลงไปสู่การพัฒนาโปรเซสเซอร์ Apple Silicon ของตัวเอง ก็นำไปสู่จุดเปลี่ยนของบริษัท และตลาดที่ใหญ่ขึ้นเช่นกัน
เพราะแทนที่จะเปลี่ยนมาใช้ทรานซิสเตอร์ และพลังงานมากขึ้น Intel และ AMD กลับเริ่มคิดถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และประสิทธิภาพการใช้พลังงานแทน ต่อให้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ไอโฟน หรือ macOS หรือไม่ ทุกคนก็ได้รับแรงผลักดันจากการเปลี่ยนแปลงของแอปเปิล
จากบทสรุปทั้งหมดของแอปเปิล และ WWDC ก็จะเห็นได้ว่าอาจจะไม่ได้มีปีที่น่าจดจำบ่อยครั้ง แต่สุดท้ายก็จะมีบางอย่างที่จะกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในภายหลัง ต่อให้จะเป็นการอัปเดตเล็กน้อยก็ตามของ iOS และ iPad OS และอื่น ๆ อีกก็ตาม
เพราะในปี 2024 ก็มีการเปิดตัว Apple Intelligence ด้วย ซึ่งก็ดำเนินการไปได้ด้วยดี และแน่นอนว่าแต่ละปีก็แทบจะคาดเดาไม่ได้เลย ว่าทิม คุกและแอปเปิลจะมาพร้อมกับอะไรบ้างกับอีเวนต์ประจำปีนี้