[วิเคราะห์] ต่อให้ Apple อัปเกรด iPhone ใหม่ต่อเนื่อง ก็จะโน้มน้าวผู้บริโภคยากขึ้น
ในช่วงเดือนกันยายนที่แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ ก็คาดว่าจะมีเจ้าของไอโฟนที่เป็นเหล่าสาวกหลายคนอัปเกรดเป็นเครื่องใหม่ เพราะ iPhone 17 ซีรีส์มีอะไรให้น่าตื่นเต้นไม่น้อย แต่กลับมีรายงานมาแย้งถึงความตื่นเต้นเหล่านั้น ว่าทิม คุกมองข้ามสัญญาณพฤติกรรมการซื้อบางอย่างของผู้บริโภคไป
จากข้อมูลของ Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) พบว่าผู้ซื้อไอโฟนในอเมริการ้อยละ 39 ในไตรมาสแรกของปี 2025 เปลี่ยนโทรศัพท์ที่ใช้งานมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 ในช่วงเวลาเดียวกันของไม่กี่ปีที่ผ่านมา
โดย CIRP นำเสนอว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึง ผู้คนจำนวนมากยังคงใช้ไอโฟนรุ่นเก่าอยู่ ทั้ง iPhone 11 และ iPhone 12 เพราะยังคงใช้งานได้ดีอยู่ บวกกับไม่ได้สนใจในการอัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ ๆ แม้กระทั่ง Apple Intelligence ที่ดูทันสมัยที่สุดในตอนนี้
ในทางกลับกัน ผู้บริโภคเริ่มตอบสนอง และถูกกับสิ่งเร้าเรื่องของเวลาที่ใช้ได้นาน และราคาที่เอื้อมถึงมากขึ้นท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจโลก และปัญหาตลาดสมาร์ตโฟนซบเซา ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากยอดขายแอปเปิลในอเมริกาที่เพิ่มขึ้นจาก 70% ในไตรมาสแรกของปี 2024 เป็น 72% ในปีนี้ด้วย
นั่นก็เป็นเพราะแอปเปิลได้เปิดตัว iPhone 16e ที่มีการอัปเดตพอเหมาะในราคาที่ถูกกว่ารุ่นปกติ ซึ่ง หลายแห่งรายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมและเมษายนในอเมริกา
อีกทั้งแอปเปิลมีอุปกรณ์ที่ทนทาน ใช้ได้นาน และอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS ได้หลายปี จนทำให้ผู้ใช้เลือกที่จะใช้รุ่นเก่าที่ตัวเองมีต่อไป และใช้เวลาเฉลี่ยทุก ๆ 42 เดือน หรือประมาณ 3 ปีกว่าค่อยเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมใหม่ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของ Brand Loyalty เลยแม้แต่น้อย เพราะการอัปเกรดที่เพิ่มขึ้นล่าสุดไม่ได้มาจากแฟนพันธุ์แท้ที่คอยจับตามองรุ่นล่าสุด
แต่มาจากลูกค้าที่คำนึงถึงงบประมาณ และตัดสินใจอย่างรอบคอบที่จะอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่แล้ว บ ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะเป็นเช่นนี้หลังจากช่วงคริสต์มาส หรือเทศกาลสำคัญที่ผู้คนใช้ซื้อของขวัญพิเศษให้ตัวเอง และผู้อื่น
และผู้ซื้อเหล่านี้จะไม่อัปเกรดเว้นแต่จำเป็นจริง ๆ เนื่องจาก หลายคนมองว่าการซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่เป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่กิจวัตรประจำปี หรือรักแบรนด์มากจนต้องเปลี่ยนทุกปีเหมือนแต่ก่อนแล้ว ต่อให้ผู้ซื้อที่มี Loyalty สูงจะยังคงมีอยู่บ้างก็ตาม
แต่ปัญหาของแอปเปิลที่เจออยู่ในตอนนี้ ก็คือปัญหาการขึ้นภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากจีนที่ 145% ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจตัดสินใจอัปเกรดโทรศัพท์รุ่นเก่าของตัวเองก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาที่อาจเกิดขึ้นเป็นผลกระทบต่อไป
กลับกันทิม คุกที่รายงานผลประกอบการไป เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เขายอมรับว่าภาษีศุลกากรอาจส่งผลกระทบ 900 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ แต่แอปเปิลก็ สามารถชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้ด้วยการปรับราคา และลดซัพพลายเออร์ลง
แต่ปัญหาในระยะยาวไม่ใช่แค่นั้น เพราะผู้ซื้อจำนวนมากจะไม่กลับมาซื้อในเร็ว ๆ นี้ อย่างผู้ใช้ที่พึ่งอัปเกรดมาใช้เมื่อ 4 -5 ปี ก็ไม่น่าจะมาซื้อ iPhone 17 ซีรีส์ที่ใกล้จะเปิดตัว และแอปเปิลอาจจะได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
แต่เรื่องการสร้าง Loyalty ต่อแบรนด์สำหรับผู้บริโภคในยุคนี้แบบระยะยาว อาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับแอปเปิลอีกครั้งก็เป็นได้
