Mark Zuckerberg จวก Apple ยับ! เป็น 20 ปีที่ไม่มีอะไรออกมาใหม่เลย
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กได้ให้สัมภาษณ์กับช่องพอดแคสต์ของ Joe Rogan ที่ใส่เต็มกับทั้งประเด็นเรื่องมาตรการคุมคอนเทนต์, การมาถึงยุคของทรัมป์ และแขวะแอปเปิลเรื่องเอาแต่พึ่งพาไอโฟนมา 20 ปีโดยไม่มีนวัตกรรมอะไรใหม่ ๆ เลย
ซึ่งมาร์กมองว่าไอโฟนเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สตีฟ จ็อบส์คิดค้นขึ้นมา และเปลี่ยนโลกได้จริง เพราะสามารถเติบโตได้จากการมีข้อมูลของผู้ใช้ภายในอุปกรณ์เครื่องเดียว ถึงขั้นที่ Facebook พยายามจะสร้างโทรศัพท์ของตัวเองอย่าง HTC และจ้างวิศวกรที่เคยทำกับแอปเปิลมาทำให้
แต่กลับล้มเหลว และพยายามจะหาวิธีใหม่ในการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ไอโฟนแทน เช่น การหลอกล่อผู้ใช้ให้ติดตั้ง VPN หรือผ่าน กฎหมายตลาดดิจิทัลของยุโรป ที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมอำนาจการครองตลาดของบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้ความสัมพันธ์ของแอปเปิลก็มักจะมีจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อ Facebook เสมอ
โดยมาร์กยังบอกอีกว่า แอปเปิลไม่สนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บน Facebook จนถึงขนาดโจมตีรูปแบบธุรกิจของ Facebook ตลอด แม้ Facebook จะพยายามอัปเดตหลาย ๆ รายการแล้วก็ตาม แต่หลังจากนั้นแอปเปิลก็เอาแต่พึ่งพาไอโฟน และไร้นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมานานแล้ว จะเห็นได้ชัดจากการที่สาวกไอโฟนเริ่มใช้เวลาเปลี่ยนเครื่องใหม่ และใช้เครื่องเดิมนานขึ้น
รวมถึงการขูดรีดผู้อื่นกับ App Store ที่พ่วงมากับค่าคอมมิชชันสำหรับนักพัฒนาแอป 30% และก็ยังขูดรีดมาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังผูกขาดระบบนิเวศที่ออกแบบมาเอง และเป็นการพยายามรักษาอำนาจของตัวเองเอาไว้บริษัทเดียวด้วย
เช่น AirPods ที่ผูกขาดการเชื่อมต่อ iPhone ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งที่ดีกว่า AirPods ก็มีเยอะ แต่กลับผูกขาดให้เหล่าสาวกต้องใช้ทุกอย่างเป็นของแอปเปิลเท่านั้นเพื่อเชื่อมกันเป็นระบบนิเวศ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ iOS ที่ทำให้ Meta ขายฮาร์ดแวร์ยากขึ้น เพราะมีข้อจำกัดกับสินค้าของ Meta
โดยสรุปแล้วการสัมภาษณ์ของมาร์กก็ดูจะสื่อเป็นส่วนใหญ่ ว่าแอปเปิลหมดไอเดียในการสร้างโปรดักต์แล้ว เลยไปหาแรงจูงใจใหม่ในตลาดอื่น ๆ แทน แถมมาร์กก็อาจจะลืมไปด้วยว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ของบริษัทก็ถูกสร้างขึ้นจากการขโมยไอเดียของ Snapchat, TikTok และล่าสุดคือ X ด้วยเช่นกัน
เพราะ Meta เป็นเจ้าของ Facebook, Instagram (ผ่านการซื้อกิจการ), Threads (โคลน Twitter), WhatsApp (ผ่านการซื้อกิจการ) และ Oculus Quest (ผ่านการซื้อกิจการ) และเนื่องจากแอปเปิลให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ก็เลยทำให้ Meta ขัดแย้งกับแอปเปิลอยู่บ่อยครั้ง
อย่างกรณีที่ Meta เคยขัดแย้งกับแอปเปิลเรื่องพยายามเลี่ยงค่าคอมมิชชั่นของแอปเปิลที่ลิงก์ไปเว็บนอกด้วย และคาดว่า Meta ก็จะยังคงมีปัญหากับแอปเปิลต่อไปอีกในอนาคต
หรือการที่ Meta มีคนหนุนหลังอย่างทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่มากขึ้น ก็อาจจะส่งผลต่อการดำเนินการกับแอปเปิลในอนาคตด้วยก็เป็นได้ ในเกมนี้จึงขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นฝ่ายได้เปรียบมากกว่า เลยต้องจับตาดูกันต่อไปครับ