รวม 5 โปรดักต์ที่ Apple อาจเปิดตัวในปี 2025

ดูเหมือนปี 2025 จะกลายเป็นอีกปีสำคัญของแอปเปิล เพราะแพลนที่จะเปิดตัวโปรดักต์ทั้งไอโฟนรุ่นใหม่ สมาร์ตโฮมรุ่นอัปเกรด และ Apple Intelligence เต็มรูปแบบมากขึ้น แต่ทั้ง 5 โปรดักต์ที่จัดว่าเด็ดจะมีอะไรบ้างทาง MacThai มีมาแชร์ครับ

iPhone 17 “Air”

ไอโฟนรุ่นที่เบา และบางที่สุดของแอปเปิลที่จะมาพร้อมกับชื่อเรียกใหม่ว่า iPhone 17 Air ซึ่งยังไม่แน่ชัดนักว่าแอปเปิลจะใช้ชื่อเรียกรุ่นนี้จริง ๆ ว่าอะไร แต่ชื่อ iPhone 17 Air ก็ดูน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด และเข้ากับตระกูลโปรดักต์อื่น ๆ ที่บางเหมือนกัน เช่น iPad Air และ MacBook Air

โดยมีข่าวลือมาว่า iPhone 17 Air จะหนาเพียง 6 มม. จากเดิมที่ iPhone 16 Pro หนา 8.25 มม. ซึ่งต่างกันถึง 2 มม. นั่นเอง แต่ขนาดหน้าจอจะกว้าง 6.6 นิ้ว ที่มีขนาดระหว่าง iPhone 17 และ iPhone 17 Pro Max

และจะมีเลนส์กล้อง 48 เมกะพิกเซลเพียงเลนส์เดียวเท่านั้น แต่จะเป็นไอโฟนที่มาพร้อมกับชิปโมเด็ม 5G ที่ผลิตเองของแอปเปิลด้วย

ซึ่งแอปเปิลแพลนให้ iPhone 17 Air มาแทนที่ iPhone 17 Plus และขายไปพร้อมกับ iPhone 17, iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max แต่ดีไซน์ด้านหลังของ iPhone 17 Air จะเป็นครึ่งอะลูมิเนียม และครึ่งกระจก เพื่อช่วยในการปรับปรุงความทนทานเครื่อง

แต่ iPhone 17 ทั้ง 4 รุ่นในปี 2025 จะได้ใช้ชิป A19 และเทคโนโลยีแสดงหน้าจอ ProMotion 120Hz ที่จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่รุ่น Pro อีกต่อไปครับ

AirPods Pro 3

แอปเปิลได้มีการอัปเดต AirPods 4 ในปี 2024 และในปี 2025 แอปเปิลก็จะมีการรีดีไซน์ให้ AirPods Pro 3 ให้มีเคสที่บางลง และคุณภาพเสียงและระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็กทีฟจะดีขึ้นกว่าเดิม

เพราะแอปเปิลจะเปิดตัวพร้อมกับชิป H-series เจนถัดไป หลังจากที่ไม่ได้เปิดตัวชิปเสียงใหม่มาสักพักแล้ว ทำให้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะมาพร้อมกับ AirPods Pro 3 น่าตื่นเต้น และจับตาไม่น้อย

รวมถึงฟีเจอร์ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และการตรวจวัดอุณหภูมิที่คาดว่าจะมาใน AirPods Pro ในอนาคตด้วย

Apple Command Center

แอปเปิลแพลนจะเปิดตัวอุปกรณ์ “Command Center” ขนาดเล็กทรงสี่เหลี่ยมสำหรับใช้ในบ้าน เพื่อให้สามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ตโฮมได้ทั้งหมดในเครื่องเดียว คล้ายกับ Echo Show เวอร์ชันของแอปเปิล

ซึ่งมีขนาด 6 นิ้ว และเล็กพอที่จะเคลื่อนย้ายจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งได้ เพื่อให้ง่ายต่อผู้ใช้หลายคนที่ต้องการ Ecosystem ของแอปเปิลเวลาอยู่บ้านเดียวกัน หรือสามารถตั้งโต๊ะ หรือวางผนังก็ได้เช่นกัน

โดย Command Center จะมีแอปมาตรฐานของแอปเปิล เช่น Home, Calendar, Apple Music , Apple News และ Apple Photos รวมถึงสามารถใช้วิดีโอคอลได้ด้วย และคาดว่าในอนาคตจะรวมเข้ากับการทำงานของ Apple Intelligence แน่นอน

iPhone SE 4

คงถึงเวลาที่แอปเปิลจะอัปเกรดไอโฟนรุ่นราคาประหยัดแล้วอย่าง iPhone SE 4 ที่ฟีเจอร์ และศักยภาพของเครื่องน่าจะคุ้มค่ากับราคา เพราะมีรอยบากสำหรับสแกน Face ID, จอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว และกล้องเลนส์เดียวความละเอียด 48 เมกะพิกเซล พร้อมพอร์ต USB-C

ซึ่งหน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น และกล้องที่มีเมกะพิกเซลสูงขึ้น แถมยังคาดว่าอุปกรณ์นี้จะเป็นรุ่นแรกที่ใช้โมเด็ม 5G ของแอปเปิล และใช้ชิป A18 แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 รุ่นปัจจุบันที่รองรับ Apple Intelligence ด้วย เรียกได้ว่าประสิทธิภาพแทบจะเท่ากับ iPhone 16 เลยแค่มีราคาถูกกว่า

Siri

อีกไม่กี่เดือนก็น่าจะได้เห็น Siri เวอร์ชันอัปเกรดสำหรับ iOS 18 , iPadOS 18 และ macOS Sequoia กันแล้ว ซึ่งแอปเปิลก็แพลนจะเพิ่มฟีเจอร์ และความสามารถของ Siri ให้ทำอะไรได้หลายอย่างในเครื่องเดียวด้วย

เช่น การตอบคำถามที่ซับซ้อน การแจ้งเตือนอีเมล และข้อความ หรือการติดตามเกี่ยวกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนมากขึ้น ทำให้พร้อมที่จะค้นหาอะไรได้กว้างขึ้น

และใน iOS 19 ที่จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ ก็คาดว่าแอปเปิลจะะเปิดตัว LLM ‌Siri‌ หรือเวอร์ชันของ ‌Siri‌ ที่ได้รับการฝึกโดยใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ด้วย เพราะการฝึกอบรม LLM จะทำให้ ‌Siri‌ คล้ายกับ ChatGPT และ Google Gemini มากขึ้น และ Siri เวอร์ชันสมบูรณ์น่าจะมาพร้อมกับ iOS 19 และการอัปเดตตามมาอีกครับ

ที่มา – https://www.macrumors.com/2024/12/20/top-5-apple-products-2025/