รวมสิ่งที่จะทำให้ Apple Ring เอาชนะผู้ผลิตแหวนเจ้าอื่นได้!
เพราะแอปเปิลวางแผนที่จะสร้าง Apple Ring เป็นของตัวเองมานานกว่า 20 ปีแล้ว และตอนนี้ก็คาดว่ายังคงใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการพัฒนาเพื่อให้สมกับเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะ และได้รับความนิยมควรค่ากับการนำมาใช้งาน แต่ก็คงต้องหาโมเมนตัมใหม่ ๆ ให้กับโปรดักเพื่อแข่งกับคู่แข่งในตลาดในตอนนี้ หรือในอนาคตที่จะมีแวหนอัจฉริยะเหมือนกัน
อย่างการเปิดตัวไอแพดที่สตีฟ จ็อบส์เคยกล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างสมาร์ตโฟน และแล็ปท็อป ว่าไอแพดจะเป็นอุปกรณ์ประเภทใหม่ ซึ่งจะต้องดีกว่าแล็ปท็อป หรือสมาร์ตโฟน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องมี เช่นเดียวกับแนวคิดการสร้าง Apple Ring ด้วย
เพราะบางคนอาจจะซื้อเพียงเพราะมันเป็นของแอปเปิล และแอปเปิลก็มักจะผลิตอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ ออกมาได้ดีเสมอ เนื่องจากมีการใส่โมเมนตัมให้อุปกรณ์ใหม่ ๆ ให้เทียบเท่ากับโปรดักยอดนิยมของตัวเอง แต่บางครั้งโมเมนตัมนั้นก็อาจจะยังไม่เพียงพอให้ของมันต้องมีด้วยปัจจัยหลายอย่าง
การปรับตัวให้เข้ากับ Apple Ecosystem
แอปเปิลต้องหาเหตุผลให้กับ Apple Ring ว่าทำไมถึงควรซื้อ และจะใช้งานกับระบบนิเวศของอุปกรณ์ที่ม่ของตัวเองได้อย่างไร อย่างไอแพดที่ควรทำงานบางอย่างได้ดีกว่าแล็ปท็อป หรือสมาร์ตโฟน แต่ก็ไม่ควรทำงานได้ดีกว่า MacBook หรือ iPhone
ทำให้การวางตำแหน่งของ Apple Ring สำคัญ และต้องอยู่ตรงกลางระหว่าง Mac, iPhone, iPad และ Apple Vision Pro ให้ได้ รวมถึงต้องสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วย อย่างน้อย Find My ก็ต้องทำงานร่วมกับ iPhone หรือ MacBook Pro ได้
ฟีเจอร์ที่โดดเด่น และเหมาะสม
ในตอนนี้คงยังไม่มีใครรู้ว่าความสามารถของ Apple Ring จะสามารถทำอะไรได้บ้างจนกว่าแอปเปิลจะประกาศเปิดตัว แต่ก็คงได้เห็นตามข่าวลือบ้างในระดับหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีตรงที่แอปเปิลสามารถทำให้โปรดักใหม่ ๆ มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดได้
โดยการพัฒนาและทำจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าง Apple Watch แต่ในด้านตรงกันข้ามแอปเปิลก็ต้องหาข้อโต้แย้งให้กับ Apple Vision Pro ของตัวเองในลักษณะเดียวกัน เพราะทั้ง Apple Watch และ Apple Vision Pro ต่างก็นำเสนอสิ่งใหม่
แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอ และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่า Apple Watch จะกลายมาเป็นอุปกรณ์สำหรับสายสุขภาพได้ หรือ Apple Vision Pro ที่สวมใส่แล้วจะมองเห็นโลกภายนอกในชีวิตประจำวันด้วยอย่างไร เพราะปกติแล้ว Headset มักจะเป็นอุปกรณ์ VR แบบรอบด้านอย่างเดียว ทำให้แอปเปิลต้องสร้างความแตกต่างจากอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ตัวเองพัฒนาขึ้นเสมอ
การถ่ายทอดฟีเจอร์ใหม่
การต่อยอดฟีเจอร์นั้นสำคัญกับอุปกรณ์ใหม่ ๆ เป็นอย่างมาก อย่าง Apple Watch ที่เป็นแค่นาฬิกาอัจฉริยะ ก็ถูกต่อยอดมาเป็นอุปกรณ์ด้านสุขภาพที่ติดตามการนอนหลับ หรือแจ้งเตือนอุบัติเหตุของผู้สวมใส่ได้ ซึ่งหลักการนี้ก็สามารถนำไปใช้กับ Apple Ring ได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่สามารถทำให้ดีขึ้นได้โดยใช้จุดสัมผัสสองจุดทั้ง Apple Watch และ Apple Ring
อุปกรณ์ที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน
แม้เรื่องเทคโนโลยีจะสามารถลอกเลียนแบบแอปเปิลได้ แต่แอปเปิลก็มองภาพกว้างไปกว่านั้นในการมีเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ใหม่ ๆ เพราะสามารถทำให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เนื่องจากแอปเปิลมักจะให้ความสำคัญว่าผู้ใช้จะทำอะไรบ้างกับอุปกรณ์นี้เป็นหลัก
อย่าง AI ที่แอปเปิลเลือกจะนำมาใช้เป็นประโยชน์มากกว่าจะเป็นของเล่น และท่ามกลางสิทธิบัตรของ Apple Ring ที่ออกมานานหลายปีก็คาดว่าจะทำเป็นแหวนอัจฉริยะที่สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน และต้องไม่สะดุดตาเกินไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ทันที และทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วขึ้นด้วย
รวมถึงเวลาโทรศัพท์ดังขณะฟังเพลงก็อาจจะมีการท่าทางพิเศษ (particular gesture) ในการทำให้โทรศัพท์เงียบลงได้ หรือการรองรับ Wave for Work ring ก็ช่วยให้เปลี่ยนสไลด์ Keynote แบบง่ายขึ้น แต่แน่นอนว่ากรทำงานนั้นจะต้องมาพร้อมกับเทคโนโลยีมากมายในพื้นที่จำกัด เพราะแหวนมีขนาดเล็ก
นอกจากนี้แอปเปิลก็อาจจะต้องคำนึงถึงการหาขนาดของแหวนที่พอดี และการทำงานควบคู่ไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่า Apple Ring คงจะยังไม่เปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็เป็นอีกโปรดักหนึ่งที่น่าจับตามองในอนาคตครับ