Apple ออกแถลงการณ์ EU เคาะสั่งปรับ 1.8 ล้านยูโร หลัง Spotify ร้องเรียนว่ากีดกันแอปสตรีมมิงเพลง
หลังจากที่แอปเปิล และ Spotify เป็นประเด็นกันมานานเกี่ยวกับการถูกฟ้องร้องว่า แอปเปิลกำลังกีดกันธุรกิจสตรีมมิงเพลงบน App Store พร้อมโดนสั่งปรับจากกรรมาธิการยุโรปถึง 1.8 ล้านยูโร หรือประมาณ 7 หมื่นล้านบาทไทย
ซึ่งแม้ผลการตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรปที่เคาะออกมาแบบไม่สามารถเปิดเผยหลักฐานได้ จะออกมาแล้ว ว่า App Store เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดเพลงดิจิทัล และเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าตลาดเพลงดิจิทัลในยุโรปกำลังเฟื่องฟู มีการแข่งขัน และเติบโตอย่างรวดเร็ว
จากการฟ้องร้องครั้งนี้แอปเปิลก็ออกมาบอกเองเลยว่า Spotify เป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุด เพราะมีแอปสตรีมเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้เข้าพบคณะกรรมาธิการยุโรปกว่า 65 ครั้งในระหว่างการสืบสวน
แถมยังครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 56% ของตลาดสตรีมเพลงในยุโรป ซึ่งมากกว่าคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดถึงสองเท่า และบริษัทไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนใด ๆ ให้กับแอปเปิลเลย ทั้ง ๆ ที่แอปเปิลมีบริการเสริมที่ช่วยให้ Spotify กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก
เพราะว่า Spotify มีสิทธิ์เลือก เช่นเดียวกับนักพัฒนาหลาย ๆ รายใน App Store โดยเลือกว่าจะขายการสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ของตัวเอง หรือจะขายในแอป เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันจากการซื้อให้แอปเปิล
ซึ่งโดยรวมแล้วแอปเปิลสามารถการันตีได้ว่า ความสำเร็จส่วนใหญ่ของ Spotify มาจาก App Store รวมถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีทั้งหมดที่ Spotify ใช้ในการสร้าง อัปเดต และแชร์แอปกับเหล่าสาวกแอปเปิลทั่วโลก หลังมีส่วนแบ่งมากกว่า 50% ในตลาดยุโรป และยังมีส่วนแบ่งบน iOS ที่สูงกว่าบน Android อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการให้ Spotify ทำงานร่วมกับ Siri, CarPlay, Apple Watch, AirPlay, วิดเจ็ต และอีกมากมาย รวมถึงอนุญาตให้ Spotify สามารถเข้าถึง API ของ Apple ได้มากกว่า 250,000 รายการและใช้เฟรมเวิร์กของแอปเปิลได้กว่า 60 รายการ ทำให้แอปเชื่อมต่อกับบลูทูธ ส่งการแจ้งเตือน เล่นเสียงในเบื้องหลังของอุปกรณ์ผู้ใช้
พร้อมได้ใช้เครื่องมือทดสอบเบต้า หรือ TestFlight กับแอปเกือบ 500 เวอร์ชันเพื่อทดลองใช้คุณสมบัติและความสามารถใหม่ ๆ ของแอป ซึ่งเครื่องมือทั้งหมดนี้แอปเปิลต้องใช้ความพยายามในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และลงทุนไปเยอะ
เพื่อสร้างเครื่องมือ เทคโนโลยี และตลาดที่ Spotify ใช้อยู่ทุกวันนี้ รวมทั้งการส่งวิศวกรของตัวเองไปยังสตอกโฮล์มเพื่อช่วยเหลือทีมของ Spotify ด้วย แต่ Spotify ก็ยังไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนให้แอปเปิลอยู่ดี และเป็นการรับประโยชน์ไปแบบฟรี ๆ แต่ก็ยังไม่พอจนต้องร้องเรียนประเด็นนี้
ทำให้มีการเปลี่ยนกฎเพื่อแทรกราคาสมัครสมาชิกไว้ในแอปได้ โดยไม่ใช้ระบบชำระเงินภายในแอปของ App Store แต่ก็ยังใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีของแอปเปิลในการเผยแพร่แอปบน App Store โดยไม่ต้องจ่ายเงินให้แอปเปิลเลยสักบาทเดียว
โดยภาพรวมในธุรกิจบริการสตรีมมิงเพลงบริษัทต่าง ๆ เช่น Google, Amazon, Deezer, SoundCloud และ Apple ต่างก็แข่งขันกันเพื่อแย่งลูกค้าอยู่เป็นปกติ แต่ Spotify ยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ อยู่จนถึงทุกวันนี้ครับ
ซึ่งสิ่งที่แอปเปิลจะทำต่อไปก็คือการตัดสินใจที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป และทำให้ App Store เป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยที่สุดและดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ด้วย