Apple Music vs. Spotify เทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าแอปไหนดีกว่ากัน?!

ทั้ง Apple Music และ Spotify ต่างก็เป็นบิ๊กในอุตสาหกรรมแอปสตรีมมิงเพลงระดับโลก แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีข้อดี และข้อเสียต่างกันไป ทั้งด้านการให้ประสบการณ์ก็มีข้อแตกต่างกันบ้าง วันนี้ MacThai จะนำข้อมูลจาก MacRumors มาเทียบให้เห็นชัด ๆ กัน ประการตัดสินใจสาวกแอปเปิลสายฟังเพลงครับ

ซึ่งแม้ Spotify จะอยู่มานานกว่า Apple Music แต่ทั้งสองบริการก็ได้รับการยอมรับไม่ต่างกัน พร้อมคลังเพลงมากกว่า 100 ล้านเพลง และฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่าง เพลย์ลิสต์ เนื้อเพลงแบบเรียลไทม์ หรือการแชร์เพลย์ลิสต์กันฟัง แต่ก็พอจะมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาช่วยเทียบอยู่ครับ

Apple MusicSpotify
จัดการเพลงได้แบบแอดวานซ์ มีตัวเลือกการจัดเรียงคอลเล็กชันเพลงที่หลากหลายไม่มีคลังเพลงให้เพิ่มลงเพลย์ลิสต์แบบจัดการเองได้ แต่มี “Liked” เพลย์ลิสต์จากเพลงที่กดใจ
มีอัลกอริทึมค้นหาเพลงแบบเบสิคมีอัลกอริธึมการค้นหาเพลงแบบแอดวานซ์
มีการปรับแต่งแบบลิมิเต็ดในแบบของตัวเอง

  • “New Music Mix”
  • “Get Up Mix”
  • “Chill Mix”
  • Radio Station แบบส่วนตัว
มิกซ์ในแบบของตัวเองได้

  • “Release Radar”
  • “Discover Weekly”
  • “Tastebreakers”

นอกเหนือจากเพลย์ลิสต์อัลกอริทึมนับพันที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้ได้

เน้นที่เพลย์ลิสต์ที่ดูแลจัดการแบบแมนนวล โดยมีการใช้งานอัลกอริทึมในการจัดการแบบจำกัดเน้นรวบรวมเพลย์ลิสต์ที่คัดเพลงด้วยอัลกอริธึมแบบแอดวานซ์
มีการเสนอเพลงที่พึ่งปล่อยจากศิลปินหลักบนสตรีมมิงเป็นครั้งคราว
ระบบเสียง Spatial Adio ด้วย Dolby Atmos เพื่อเพิ่มประสบการณ์เสียงรอบทิศทางแบบเสมือนจริง พร้อมเพลงที่รองรับระบบเสียงนี้โดยเฉพาะ
Lossless Audio สูงสุด 24 บิต/192 kHz
มีข้อกำหนดจาก Apple Digital Masters
  • ‌Apple Music‌ 1
  • Apple Music‌ Hits
  • Apple Music‌ Country ไลฟ์กับดีเจ
  • บทสัมภาษณ์
  • รายการพิเศษ
  • รวมคลังโชว์ และรายการ
มีมิวสิควิดีโอในแอป
มีพ็อดคาสท์และ Audio Books ในแอป
‌Apple Music‌ Classical
เพิ่มประสบการณ์ด้วย Apple Music‌ Sing Karaoke
มีตัวเลือก Social Sharing ที่จำกัดมีตัวเลือก Social Sharing ที่ครอบคุลม เช่น ดูเพลงที่เพื่อน หรือผู้ติดตามฟังได้แบบเรียลไทม์
‌Apple Music‌ Replay ใน 1 ปีSpotify Wrapped ทุกสิ้นปี พร้อมประสบการณ์ที่แชร์ลง Social Media ได้
ใช้ได้กับ Apple Ecosystem อย่าง Apple TV , HomePod , Vision Pro, Siri และ Apple Fitness+
ใช้งานได้ทั้งบนอุปกรณ์ Apple และ Android ทั้งหมด รวมถึงคอนโซลเกม และทีวีบางรุ่นใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมถึงอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple รองรับบน Apple TV แต่ไม่รองรับบน Vision Pro
เป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย
มีความสามารถในการควบคุมจากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง
อัปเกรดจากคลัง iTunes ที่มีอยู่ ทำให้ผู้ใช้รวมคอลเลกชั่นเพลงส่วนตัวเข้ากับคลังสตรีมมิ่ง และอัปโหลดหรือสตรีมเพลงที่ไม่ได้อยู่ในคลังเพลง Apple Music ได้สามารถเล่นไฟล์เสียงในอุปกรณ์ได้
ฟังเพลงบน ‌Apple Music‌ 1, ‌Apple Music‌ Hits หรือ ‌Apple Music‌ Country ได้ฟรีเข้าถึงคลังเพลงได้เต็มรูปแบบ และสุ่มเล่นเพลย์ลิสต์ไหนก็ได้ฟรี 6 ครั้งพร้อมโฆษณาคั่น
การสมัครสมาชิกแบบบุคคล : 139 บาท/เดือน
การสมัครสมาชิกแบบนักศึกษา : 79 บาท/เดือน
การสมัครสมาชิกแบบครอบครัว :219 บาท/เดือน*ทดลองใช้ฟรี 3 เดือน* อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชันเดือนนั้น ๆ
การสมัครสมาชิกแบบบุคคล : 139 บาท/เดือน
การสมัครสมาชิกแบบนักศึกษา : 72 บาท/เดือนการสมัครสมาชิกแบบ “Mini” : 7 บาท/ 1 วัน
การสมัครสมาชิกแบบ “Duo” : 189 บาท/เดือน
การสมัครสมาชิกแบบครอบครัว : 219 บาท/เดือน*ทดลองใช้ฟรี 2 เดือน* อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชันเดือนนั้น ๆ
รวมแพ็กเกจการสมัครสมาชิก Apple One

ซึ่งเมื่อเทียบแล้วก็จะเห็นทั้งความคุ้มค่าในเรื่องของประสบการณ์การใช้งาน และราคา หรือแพ็กเกจที่แตกต่างกันบ้าง โดย Apple Music จะเน้นไปที่การใช้งานแบบมี Apple Ecosystem และดึงดูดสายที่ฟังเพลงเน้นคุณภาพเสียงอย่าง Lossless Audio และ Spatial Audio รวมไปถึงคอนเทนต์อื่น ๆ ของแอปเปิลที่ฟังฟรีได้ แถมพ่วงมากับบริการ Apple One ด้วย

ส่วน Spotify ก็จะเหมาะกับสายฟังเพลงที่ชอบการค้นหาเพลงใหม่ ๆ ด้วยฟีเจอร์  Discover Weekly และ Release Radar รวมถึงเน้นฟังแล้วแชร์ลงโซเชียลมีเดียด้วย เพราะมีกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟให้เล่นค่อนข้างเยอะ แถมฟังข้ามอุปกรณ์ง่ายเหมาะกับคนสลับอุปกรณ์การใช้งานบ่อย ๆ แม้จะฟังฟรีพร้อมโฆษณาแต่ก็ยังรู้สึกคุ้มอยู่ เพราะสุ่มเพลงข้ามเพลย์ลิสต์ได้ฟรีครับ

ที่มา – https://www.macrumors.com/guide/apple-music-vs-spotify-buyers-guide/

https://www.apple.com/th/apple-music/#plans

https://www.spotify.com/th-th/premium/#plans