รวมอุปกรณ์ และเทคโนโลยี Apple ที่คว้าตำแหน่ง Winner และ Loser ปี 2023
ใกล้จะสิ้นปีแล้วในอีกไม่กี่วัน ซึ่งแอปเปิลในปีนี้ก็มีทั้งอุปกรณ์ที่โดดเด่นมาก ๆ แล้วก็อุปกรณ์ที่จาง และกลืนไปเพราะไม่ได้มีอปัเดตอะไรต่างจากเดิมก็มี ทาง MacThai ก็เลยมีอัปเดตอุปกรณ์แอปเปิลที่ทั้งดี และแย่แห่งปีจาก GSMARENA มาแชร์ให้ดูกันครับ
Winner
USB-C Port
แน่นอนว่าเป็นเหล่าสาวกหลาย ๆ คนตั้งหน้าตั้งตารอให้แอปเปิลเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับชาวบ้านเขาอยู่แน่ ๆ และแอปเปิลก็เริ่มเปลี่ยนจริง ๆ หลังถูกกฎหมายฝั่งยุโรปบีบมาด้วย
เพราะถ้าไม่มีกฎหมายมาเร่งล่ะก็ เราอาจจะได้ใช้พอร์ต Lightning ต่อไปอีกประมาณ 2-3 ปีก็ได้ เพราะเป็นผลดีกับแอปเปิลมากกว่าที่สามารถสร้างกำไรได้จาก พอร์ตรุ่นเก่าด้วยโปรแกรมลิขสิทธิ์ Made for iPhone (MFi)
iPhone 15 Pro
ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตอนนี้ที่มาพร้อมวัสดุไทเทเนียม ตัวเชื่อมต่อ USB 3.2 Type-C, ชิปเซ็ต 3 นาโนเมตรตัวแรกของโลก และกล้องเลนส์ Periscope x5 ก็เลยการันตีได้ว่าเป็นไอโฟนที่มีกล้องดีที่สุดในตอนนี้ แถมยังเป็นรุ่นอัปเกรดที่น่าดึงดูดใจกับผู้ใช้แอนดรอยด์มาเป็นเวลานานด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเกมความละเอียดสูง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Resident Evil Village, Death Stranding และ Assassin’s Creed Mirage ก็สามารถเล่นได้เฉพาะ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ด้วย ส่วนเรื่องดีไซน์ที่กรอบบางกว่าเดิม พร้อมมี Action Button ก็ทำให้รู้สึกมีความโมเดิร์นขึ้นในตัว
ตามมาด้วยความจุเริ่ม 256GB ก็ถูกใจสายข้อมูลเยอะไปอีก ส่วน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ก็มีการอัปเดตเช่นกัน เพียงแต่ราคาเริ่มจะเท่ารุ่นโปรแล้ว เพื่อหวังจะดันให้สาวกไปใช้รุ่นพรีเมียมมากขึ้นครับ
Apple M3 Chip
ชิป M ซีรีส์ของแอปเปิลนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปี 2020 และก็พัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานที่เร็ว และแรงมรตลอด เพื่อลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ด้านชิป
ซึ่งในปีนี้ชิปตระกูล M3 ก็เปิดตัวมาพร้อมกับ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว และ iMac รุ่น 24 นิ้ว ใหม่ล่าสุด เพิ่มประสิทธิภาพ GPU แบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ที่สายเกมก็ไม่หวั่นเพราะมี Dynamic Caching สำหรับแอป หรือเกมด้วย
Loser
Lightning Port
แม้แอปเปิลจะใช้พอร์ต Lightning มานานหลายปี แต่ก็ต้องยอมรับว่าพอร์ตนี้ มีข้อจำกัดทางเทคนิคด้วยความเร็วการถ่ายโอนสูงสุดจำกัดไว้ที่ 480 Mbps และไม่อนุญาตให้ชาร์จเร็วเกิน 20W
แต่ 10 ปีต่อมา สมาร์ตโฟนกลับสามารถมีความเร็วการถ่ายโอน USB 3.1 สูงสุด 10 กิกะบิต และการชาร์จมากกว่า 100W ไปแล้ว
และที่เป็นปัญหายิ่งกว่าก็คือการรักษาระบบนิเวศของอุปกรณ์ให้มีการเชื่อมต่อร่วมกัน และมีแค่แอปเปิลที่ไม่ยอมเปลี่ยน และคงไว้ซึ่งพอร์ต Lightning มานาน ทำให้เหล่าสาวกต้องพกสายเคเบิล หรืออุปกรณ์เสริมเพื่อชาร์จตลอด
Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2
เรียกได้ว่าเป็นช่วงซบเซาของอุปกรณ์อย่าง Apple Watch เลยก็ว่าได้ แม้จะออกรุ่นใหม่มาแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีดีไซน์เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ ซึ่งมีแค่ 2 ฟีเจอร์เท่านั้นที่แตกต่าง
นั่นก็คือชิป SiP รุ่น S9 ที่ปรับแต่งให้สามารถแตะสองครั้งเพื่อป้อนคำสั่งได้ และ Double Tap ที่ช่วยให้ควบคุมนาฬิกาง่ายขึ้นด้วยมือเดียว โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ
แต่ที่ทำให้แย่ไปมากกว่านี้อีกก็คือการมีข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรเรื่องอุปกรณ์กับ Masimo จนต้องมีคำสั่งห้ามแอปเปิลขาย Watch Series 9 และ Watch Ultra 2 ไปเลย ทำให้ขาดช่วง และไม่สามารถมีสินค้าพอหลังจากช่วงสิ้นปีเป็นต้นไป
Apple 5G Modem
หลังมีข่าวลือมาหนาหูว่าแอปเปิลกำลังพัฒนาชิปโมเด็ม 5G ของตัวเอง เพื่อจะลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์เจ้าประจำอย่าง Qualcomm แม้ตัวเองจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดก็ตาม ซึ่งคิดเกือบเป็นหนึ่งในสี่ขิงรายได้รวมของผู้ผลิตชิปเลยก็ว่าได้
แต่แอปเปิลก็อาจละทิ้งแผนผลิตชิปโมเด็ม 5G เสียเอง เพราะชิปโมเด็มถือเป็นส่วนประกอบที่ยากที่สุด และซับซ้อนที่สุด ซึ่งเป็นความท้าทายหนึ่งของแอปเปิลเลยก็ว่าได้ เพราะไม่สามารถนำความสามารถที่ใช้ผลิตชิป M และ A ซีรีส์มาใช้ได้
แถมต้นแบบโมเด็ม 5G ของแอปเปิลก็ช้ากว่าชิปโมเด็มเรือธงของ Qualcomm อย่างน้อยสามปี ซึ่งจะเห็นได้จากการที่แอปเปิลเลื่อน และต่อมาเปลี่ยนเป้าหมายเป็นปี 2024 จนกว่าจะยกเลิกแผนทั้งหมดครับ
ที่มา – https://www.gsmarena.com/2023_winners_and_losers_apple-news-60974.php