เราจะยังได้เห็น iPhone โมเดลรุ่น S อีกหรือไม่?
ในขณะที่เรากำลังจะเปลี่ยนจาก iPhone 14 เข้าสู่ยุค iPhone 15 เคยคิดกันไหมว่า จะมีวันที่เราได้เห็นไอโฟนโมเดลรุ่น S อีกหรือเปล่า? ต่อให้ เทคโนโลยีหลักอย่าง Siri และ TouchID จะเปิดตัวในช่วงโมเดลนี้ก็ตาม
อย่างเคสน่าสนใจคือตอนที่มีประกาศเปิดตัว iPhone 4S มาแทนก่อนที่ iPhone 5 ในปี 2011 จะเปิดตัวต่อมา และก็มีการพัฒนาจาก iPhone 3G เป็น iPhone 3GS, iPhone 4 เป็น iPhone 4S, iPhone 5 เป็น iPhone 5S และ iPhone 6 เป็น iPhone 6S เป็นต้น
โดยไอโฟนทั้ง 8 รุ่นที่กล่าวไปมีข้อแตกต่างกัน คือ หมายเลขฮาร์ดแวร์ใหม่ การออกแบบดีไซน์เครื่องใหม่ เลยต้องมีตัว ‘S’ มากำกับหลังชื่อ เพื่อทำให้เหล่าสาวแยกออก และรู้ว่าเป็นโมเดลที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การอัปเกรดด้วยกลยุทธ์ตัว S นี้ ไม่ได้มีมาสักพักแล้ว
ซึ่งไปจบลงที่ iPhone 7 โดยมีรูปร่างและขนาดหน้าจอเดียวกันกับ iPhone 6 และ iPhone 6S แต่เพิ่มหมายเลขเวอร์ชันอยู่ดี หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น iPhone 6SS ก็ว่าได้ จากนั้นก็มาเป็น iPhone 8 เลย โดยที่ไม่มี iPhone 7S อีก แต่ iPhone 8 ก็มีรูปร่าง และไซซ์ไม่ได้ต่างไปจาก iPhone 7 เลย
จากนั้นแอปเปิลก็นำโมเดลของ iPhone 5 ทั้งรูปร่าง และไซซ์มาแปรเป็น 3 เจนของทั้ง iPhoneSE และ iPhone 6 ซ้ำแล้วซ้ำอีก มาจนถึง iPhoneSE เจน 3
และแอปเปิลก็ไม่มี iPhone 9 ด้วย ซึ่งก็ช่วยดันให้ iPhone X หรือเจน 10 ทำยอดขายได้เร็วกว่า iPhone 8 ถึง 2 ปี ซึ่งเปิดตัวในเดือนเดียวกัน แถมยังมีไอโฟนรุ่น S อย่างเป็นทางการรุ่นสุดท้ายออกมาหนึ่งปีให้หลัง อย่าง iPhone XS ด้วย
แต่ยังคงรูปร่าง และไซซ์เดียวกันกับ iPhone X อยู่ เพียงแค่ดูทันสมัยกว่า นอกจากนี้ยังมี iPhone XS รุ่นที่ใหญ่กว่าที่เรียกว่า iPhone XS Max อีก
แต่โดยสรุปแล้ว iPhone X, iPhone XS และ iPhone 11 Pro อยู่ในตระกูลเดียวกันในแง่ของการออกแบบ ส่วน iPhone 12 Pro, iPhone 13 Pro และ iPhone 14 Pro สามารถจัดหมวดหมู่ร่วมกันได้ เพราะมีการใช้เคสแบบเดียวกัน
และสำหรับ iPhone 15 Pro ก็ดูเหมือนจะเป็นการปรับปรุงการออกแบบที่มาจาก iPhone 12 Pro อีกครั้ง แต่ยังไงก็เชื่อว่าขอบที่บางลง ในขณะที่จอแสดงผลเท่าเดิมจะไม่ทำให้ขนาดจอลดลง
แต่การที่ iPhone ไม่ได้พ่วงมากับชื่อ S ต่อท้ายอีก ก็น่าจะเป็นการดีที่ไอโฟนแต่ละรุ่นจะได้มีหมายเลขเครื่องของตัวเอง และให้ความรู้สึกเป็นเหมือนไอโฟนที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในแต่ละรุ่น และไม่ต้องสับสนว่าต่างกันอย่างไรอีก เพราะก่อนหน้านั้นที่ S ตามหลังชื่อรุ่น เหมือนเป็นตัวบอกกลาย ๆ ว่ารุ่นนี้จะยังคงดีไซน์เดิมนั่นเอง
ที่มา – 9To5Mac