Google ถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินให้ Apple กลายเป็นดีลลับคานอำนาจ Search Engine กัน
กูเกิลถูกกล่าวหาว่าจ่ายรายได้การเป็น Search Engine ของ Google Chrome ให้กับ iOS ของแอปเปิล โดยเป็นส่วนหนึ่งของดีลลับที่ไม่ใช่การแข่งขัน
รายงานนี้มาจาก The Register ว่ากูเกิลยอมจ่ายเงินเพื่อให้ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้เริ่มบริการเสิร์ชใน Safari พร้อมผลประโยชน์เชิงพาณิชย์อื่น ๆ
ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแอปเปิล และกูเกิล กลายเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างต่อเนื่อง สำหรับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานการแข่งขันและการตลาดของสหราชอาณาจักร (CMA)
ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังพิจารณาข้อตกลงการแบ่งรายได้จากดีลนี้อย่างลับ ๆ โดยกูเกิลจ่ายเงินให้แอปเปิลประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือการค้นหาของตัวเอง เป็นตัวเลือกเริ่มต้นบนอุปกรณ์แอปเปิล
แต่แอปเปิลไม่ได้ให้คความชัดเจนกับผู้ที่ต้องการใช้เสิร์ชของกูเกิลมากนักบน iOS ทาง CMA เลยกังวลว่าดีลนั้ยจะเป็นเพียงการกีดกันไม่ให้กูเกิลแอปเปิลแข่งกับกูเกิลด้วยเครื่องมือเสิร์ชของตัวเอง เพราะมันส่งผลเสียต่อโมเดลธุรกิจของกูเกิล
และข้อตกลงดังกล่าว ยังถูกพาดพิงถึงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก ในคดีต่อต้านการผูกขาดที่ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ในซานฟรานซิสโกด้วย ว่ากูเกิลจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับแอปเปิล
และตกลงที่จะแบ่งปันผลกำไรกับแอปเปิล เพื่อกำจัดภัยคุกคาม และความหวาดกลัวของแอปเปิลในฐานะคู่แข่งที่มีศักยภาพในการเป็น “Code Red” ที่อาจกลายเป็นคู่แข่งในธุรกิจ Search Engine ได้
โดยสรุปแอปเปิล และกูเกิลกำลังหาทางยกฟ้องคดีนี้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานของข้อตกลงที่แน่นอนระหว่างทั้งสองบริษัท แต่การสอบสวนของ CMA ในตอนนี้ดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าข้อตกลงดังกล่าวมีอยู่จริง
แต่สิ่งนี้กลับอธิบายได้ว่า ทำไมแอปเปิลจึงไม่เปิดตัวเครื่องมือการค้นหาของคู่แข่ง หรือพัฒนา Safari จนถึงจุดที่กลายเป็นคู่แข่งของ Google Chrome บน macOS ตามรายงานของ The Register
และในทำนองเดียวกันกูเกิลก็ไม่ได้มีการผลักดันให้แอปเปิลอนุญาตการมี Google Chrome สำหรับ iOS เวอร์ชันที่ไม่ใช่ WebKit สักที
เพราะมันเป็นผลประโยชน์ในการรักษาอำนาจเหนือกันและกัน โดยการแบ่งดีลนี้ก็ได้รับการกล่าวขานแล้วว่า “ผิดกฎหมาย” ภายใต้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ และมีแนวโน้มที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์เมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอีกครั้ง
ที่มา – MacRumors
