Apple ได้เลือกลงทุนไปมากกว่า 1 พันล้านยูโรในประเทศเยอรมนีที่ European Silicon Design Center ในเมืองมิวนิก

Apple จะทำให้เมืองมิวนิกเป็น European Silicon Design Center ทาง Apple ได้ประกาศในพุธที่ 10 มีนาคมปี 2021 ว่างานที่ Apple ดำเนินการอยู่แล้วในเมืองหลวงของบาวาเรียมีส่วนสนับสนุนการออกแบบ Apple Silicon ในขณะที่การขยายตัวพร้อมกับการลงทุนเพิ่มเติมในด้านการวิจัย และพัฒนาจะเกิน 1 พันล้านยูโรในอีกสามปีข้างหน้า

Apple กล่าวว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัยแห่งใหม่นี้ จะนำงานใหม่หลายร้อยตำแหน่งมาสู่พื้นที่นี้ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางทางวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุดของ Apple ในยุโรป โดยที่จะมีวิศวกรประมาณ 1,500 คน จาก 40 ประเทศทั่วโลกที่ทำงานในหลากหลายด้าน รวมไปถึงการออกแบบการจัดการพลังงาน และแอพพลิเคชันโปรเซสเซอร์ สถานที่แห่งใหม่นี้จะรองรับพนักงานที่มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีไร้สาย

“ ฉันไม่สามารถตื่นเต้นไปมากกว่านี้สำหรับทุกสิ่งที่ทีมวิศวกรในเมืองมิวนิกของเรา จะค้นพบตั้งแต่การสำรวจพรมแดนใหม่ของเทคโนโลยี 5G ไปจนถึงเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่จะนำพลังความเร็ว และการเชื่อมต่อมาสู่โลก ” Tim Cook จาก Apple กล่าว ผู้บริหารสูงสุด “ เมืองมิวนิกเป็นบ้านของ Apple มามากกว่า 4 ทศวรรษแล้ว และเรารู้สึกขอบคุณชุมชนนี้ และประเทศเยอรมนีที่เป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของเรา”

สิ่งอำนวยความสะดวกแห่งใหม่ขนาด 30,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใน Karlstrasse ใจกลางเมืองมิวนิก และจะเป็นที่ตั้งของหน่วยเซลลูลาร์ที่กำลังเติบโตของ Apple ซึ่งเป็นไซต์ R&D ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ และซอฟต์แวร์ไร้สายแบบพกพา ทีมที่นั่นจะสร้าง 5G และเทคโนโลยีในอนาคต และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผสานรวม และเพิ่มประสิทธิภาพโมเด็มไร้สายสำหรับผลิตภัณฑ์ Apple

Apple วางแผนที่จะเริ่มย้ายเข้าสู่อาคารใหม่ในช่วงปลายปี 2022 และเช่นเดียวกันกับทุกสำนักงานของ Apple ที่ตั้งอยู่ในทั่วโลกจะใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 100%

Apple กล่าวว่าได้ใช้เงินไปมากกว่า 15 พันล้านยูโร ไปกับบริษัทต่างๆมากกว่า 700 แห่ง ในทุกขนาดทั่วประเทศเยอรมนี ซึ่งรวมไปถึงผู้ผลิตชิพ Infineon , บริษัทแบตเตอรี่อย่าง Varta และบริษัทเคมีของครอบครัว DELO ซึ่งได้ส่งมอบเรซินสำหรับเทคโนโลยี Face ID ในผลิตภัณฑ์เช่น iPhone 12

ที่มา – MacRumors