นโยบายใหม่ Safari จะปฏิบัติต่อระบบติดตามผู้ใช้บนเว็บเหมือนภัยคุกคามคอมพิวเตอร์ ไม่มีข้อยกเว้น

Apple ประกาศจุดยืนต่อเว็บไซต์ที่มอนิเตอร์และเก็บข้อมูลของผู้ใช้ใหม่ โดยในหน้านโยบายของ WebKit เอนจินสำหรับเรนเดอร์หน้าเว็บบน Safari ฉบับใหม่ที่เพิ่งออกในวันพุธที่ผ่านมาระบุชัดเจนว่า ต่อไปนี้เว็บไซต์หรือแอปที่พยายามจะหลีกเลี่ยงระบบต่อต้านการติดตามข้ามเว็บไซต์ของ Safari จะถูกปฏิบัติราวกับเป็นมัลแวร์ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับภัยคุกคามระบบคอมพิวเตอร์

safari-technology-preview

การติดตามข้ามไซต์นั้นถือเป็นวิธีหนึ่งที่ผู้เก็บสถิติใช้ในการมอนิเตอร์พฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยมีเป้าหมายเพื่อการขายข้อมูลต่อหรือนำข้อมูลไปใช้ทำการโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น การดูสินค้าบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ถ้าคุณเจอสินค้าชิ้นเดียวกันนั้นโฆษณาตอนเข้าเว็บอื่น นั่นคือการติดตามผู้ใช้เพื่อโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย

การออกนโยบายใหม่มานี้ เป้าหมายหลักคือเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งในนโยบาย WebKit บอกชัดเจนว่า Apple จะไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ให้ใครหรือเว็บไซต์ใดที่พยายามจะติดตามผู้ใช้ และเตือนด้วยว่าการปฏิบัติเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวต่อผู้ใช้เหล่านี้อาจจะเกิดผลกระทบบางอย่างกับหน้าเว็บโดย Apple ไม่ได้เจตนา เช่น

  • การวัดจำนวนคลิก
  • การวัดประสิทธิภาพการโฆษณา
  • ระบบล็อกอินของบุคคลที่สาม (เช่น Facebook Login) รวมถึงปุ่มไลค์ปุ่มแชร์

ในหน้าของ WebKit เองระบุชัดเจนว่าแม้จะมี tradeoff แต่ก็ขอเลือกผลประโยชน์ของผู้ใช้งานมาก่อน และในอนาคต WebKit จะทยอยอิมพลีเมนต์ API ให้เว็บต่าง ๆ ใช้งานได้สะดวกเหมือนเดิมแต่จะติดตามได้ยากขึ้นหรือไม่ได้เลย

ดังนั้นถ้าใครพยายามจะใช้เทคนิคเพื่อหลีกเลี่ยงระบบต่อต้านการติดตามของ Safari แล้ว Apple เตือนอย่างชัดเจนว่า หากบริษัทรู้ตัวก็จะอิมพลีเมนต์ข้อจำกัดเพิ่มขึ้นบน WebKit โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า หมายความว่าถ้าเว็บหรือระบบต่าง ๆ พังก็ช่วยไม่ได้

Apple เองก็ไม่ใช่รายแรกที่ประกาศชัดเจน เพราะ Firefox ก็มีนโยบายลักษณะเดียวกันมาแล้ว แต่ด้วยสเกลของ Apple การมี WebKit อยู่ในมือและมีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลก็จะน่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ทำธุรกิจด้านนี้ไม่น้อย

ที่มา – WebKit, Engadget