[ชมคอนเซ็ปต์] iOS 12 มาพร้อม Dark mode, Group FaceTime, Complication และอื่น ๆ อีกเพียบ
ล่าสุดนักออกแบบ Andrew Vega และ Maximos Angelakis จาก iupdateos ได้แชร์วิดีโอคอนเซ็ปต์ iOS 12 ใหม่ที่แอปเปิลจะเปิดตัวในงาน WWDC 2018 ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ หลายอย่างด้วยกัน
Always On Display
สำหรับฟีเจอร์ Always On Display เป็นฟีเจอร์คล้าย ๆ กับฝั่งแอนดรอยคือ iPhone ที่ใช้หน้าจอ OLED หรือ iPhone X และอาจรวมถึงไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัว จะสามารถแสดงผลได้ตลอดเวลาถึงแม้จะล็อกหน้าจอไว้แล้วก็ตาม เนื่องจาก หน้าจอ OLED จะไม่มีการใช้พลังงานในการแสดงผลสีดำ ทำให้ไอโฟนที่ใช้จอ LCD ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้
New Dynamic Wallpaper
สำหรับ Dynamic Wallpaper แอปเปิลได้ทำการเพิ่มพื้นหลังให้มากขึ้นใน iOS 11 บน iPhone X แล้ว แต่พื้นหลังทั้งหมด มีแบบเดียวก็คือ เป็นจุด ๆ เคลื่อนไหวไปมา ซึ่งในคอนเซ็ปต์นี้ พวกเขาคิดว่าแอปเปิลน่าจะทำ Dynamic Wallpaper มาให้เพิ่มเติม ซึ่งเขายกตัวอย่าง รูปลูกโลกที่เป็น Wallpaper ที่มีตั้งแต่ไอโฟนรุ่นแรก แต่มันสามารถหมุนได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องใช้ 3D Touch กดลงไปแรง ๆ ให้มันขยับ
Lock Screen Complication
สำหรับฟีเจอร์นี้ พวกเขาได้คอนเซ็ปต์มาจาก Complication บน Apple Watch ซึ่งมันคือ การแสดงสถานะ เช่น อุณหภูมิ, สภาพอากาศ, 3 Activity Rings, จำนวนข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน และอื่น ๆ ทำให้เราดูข้อมูลได้จากหน้า Lock Screen เลย
Group Notification
ถัดมาเป็นการคอนเซ็ปต์ดีไซน์ Notification Center ใหม่ โดยไอเดียนี้ พวกเขาได้ออกแบบให้ Notification ที่เป็นแอปเดียวกัน รวมอยู่ด้วยกัน ทำให้ง่ายต่อการดู ซึ่งก่อนหน้านี้จะเรียงตามเวลา และจะไม่รวมข้อความแจ้งเตือนแต่ละแอปเข้าด้วยกัน
Group FaceTime
ถัดมาเป็นฟีเจอร์ที่ใครหลาย ๆ คนต้อง คือ Group FaceTime หรือการคุยแบบเห็นหน้าผ่าน FaceTime พร้อมกันได้มาถึง 5 คน ซึ่งต่างจากเวอร์ชันก่อน ๆ ที่จะคุยได้แบบ 1 ต่อ 1 เท่านั้น
Hey Siri
โดยคอนเซ็ปต์ของเค้าได้ออกแบบมา เมื่อเราเรียกใช้งาน Siri หน้าจอแสดงผลจะแสดงแค่ส่วนบนของหน้าจอ จะไม่แสดงเต็มจอเหมือนแต่ก่อนแล้ว ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานไปด้วย และสั่งงาน Siri ไปด้วยพร้อม ๆ กัน
Dark Mode
และฟีเจอร์สุดท้ายที่มีข่าวลือมาหลายปี นั่นก็คือ Dark Mode สำหรับฟีเจอร์นี้บน macOS ได้มีตั้งหลายปีแล้ว แต่บน iOS ยังไม่มี ซึ่งข้อดีของฟีเจอร์นี้คือ ทำให้ไอโฟนที่ใช้หน้าจอ OLED ประหยัดพลังงานมากขึ้นนั่นเอง
สุดท้ายนี่เป็นเพียงแค่คอนเซ็ปต์ iOS 12 จากดีไซน์เนอร์เท่านั้น เราต้องมาคอยลุ้นกันว่าบน iOS 12 จากแอปเปิลของจริง จะมีฟีเจอร์อะไรบ้าง จะเจ๋งแค่ไหน มาคอยติดตามงาน WWDC 2018 ที่จะถ่ายทอดสดในวันที่ 4 มิถุนายนกัน
ที่มา – iClarified