สำหรับสาย Sport Loop ได้เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ Apple Watch Series 3 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งหมด 8 สีด้วยกัน ราคา 1,900 บาท ราคาเท่ากับสาย Sport Band และวันนี้แอดจะมารีวิวสาย Sport Loop สีดำ 42 mm ว่ามันสวย น่าซื้อมาใช้หรือไม่ ?
รูปลักษณ์ภายนอกสาย Sport Loop
สำหรับสาย Sport Loop เป็นสายผ้าทำมาจากไนลอนเนื้อดี เมื่อแกะกล่องคือมีให้แค่สายเดียว ไม่ได้มีสายสั้น สายยาวเหมือน Sport Band ความยาวประมาณ 25 เซนติเมตร ใครข้อมือใหญ่ สามารถใส่ได้แน่นอน
เมื่อเราดูใกล้ ๆ สาย Sport Loop มันไม่ได้มีสีเดียว คือมันไม่ได้ดำสนิท แต่ด้านในมันมีด้ายสีน้ำเงิน สีแดง สีเหลืองถักทออยู่ด้านใน และสีด้ายสีดำ ถักซ้อนขึ้นมาอีกชั้นนึง ถ้าใครงง ๆ แอดทำภาพจำลองง่าย ๆ ให้ดูกัน
จากภาพจะเห็นว่าด้านสีดำมันพองขึ้นมาจากด้านตรงพื้น 3 สี ทำให้เวลาเราลูบหรือสัมผัสบนสาย Sport Loop ทำให้นุ่มมาก เพราะเวลากดลงมันจะเด้ง ๆ ไม่บาดมือ ถือว่าแอปเปิลออกมาสาย Sport Loop ออกมาดีกว่าที่คิด
แอดลองใช้เลนส์มาโครซูมเข้าไป ก็จะเห็นด้านสีดำ มันถักออกมาในระดับกว่าที่สูงกว่าด้ายด้านล่าง
ส่วนตรงปลายสาย Sport Loop ไม่ใช่แม่เหล็กเหมือนกับ Milanese Loop แต่นี่จะเป็นแบบตีนตุ๊กแก (Velcro strips) ที่ไว้แปะกับเนื้อผ้า ซึ่งตีนตุ๊กแกแบบปกติ เมื่อเราลูบ ๆ สัมผัส มันจะรู้สึกแหลม ๆ คม ๆ ถ้าถูกับผิวเราจะแอดจะทำให้แสบได้เลย แต่ ตีนตุ๊กแกของ Sport Loop นี้ มันไม่ความรู้สึกแบบนั้นเลย
เมื่อลองซูมเข้าไปใกล้ ๆ จะเห็นเป็นตะขอเล็ก ๆ แต่จะไม่ได้ชี้โด่ขึ้นมาเหมือนตีนตุ๊กแกทั่ว ๆ ไป ทำให้เวลาเราสัมผัสมันไม่คม บาดมือเรา สำหรับความทนทาน ตีนตุ๊กแกแบบนี้มันจะไม่กินเนื้อผ้าตรงสาย หมดปัญหาเนื้อผ้าติดตรงตีนตุ๊กแกไปได้เลย
ความรู้สึกขณะสวมใส่
ต้องบอกก่อนว่าแอดใช้สาย Sport Band มาตลอดหลายปี เมื่อได้ลองเปลี่ยนเป็นสาย Sport Loop ครั้งแรก ความรู้สึกแรกก็คือ “มันเบาว่ะ !!~” คือมันไม่ได้ถ่วงข้อมือเราเหมือน Sport Band แอดได้ลองเอาไปใส่นอน ก็ต้องบอกเลยว่ามันใส่สบาย รู้สึกหนัก เกะกะมันน้อยลงกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้เบาขนาดเหมือนไม่ได้ใส่ขนาดนั้น
และข้อดีของ Sport Loop อีกข้อนึงเลยก็คือ มันปรับขนาดได้ตามความต้องการ ซึ่งแตกต่างกับสาย Sport Band ที่มีรูให้เสียบเข้าไป ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเจอปัญหา ใส่แล้วคับไป แต่พอเลื่อนออกมาอีกรูนึงก็กลับหลวมไป
ยิ่งไปกว่านั้นสาย Sport Loop ไม่มีทางที่สายจะหลุดออกมาจากห่วงที่เกี่ยวแน่นอน เพราะพลาสติกตรงปลายของสาย มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้มีความปลอดภัยอีกชั้น ไม่มีทางสายหลุดออกมาแน่นอน
แต่ข้อเสียจุดนึงของสาย Sport Loop ก็คือ ด้านข้าง ตรงขอบของสายนั้น ยังมีความคมอยู่เล็กน้อย ทำให้เวลาเราเลื่อนสายนาฬิกาบนข้อมือ มันอาจจะไปเสียดสีกับข้อมือเล็กน้อย
ใส่เอาไปวิ่ง ออกกำลังกายเวิร์กมั้ย ?
สำหรับการออกกำลังกาย แอดลองเอาไปใส่วิ่ง ปั่นจักรยาน ออกกำลังกายแล้ว ใส่สบายกว่า Sport Loop เพราะน้ำหนักที่มันเบากว่า มันเลยไม่รู้สึกถ่วงข้อมือ ส่วนความหนาแน่นของตีนตุ๊กแกบอกเวลาว่าไม่มีโอกาสหลุดแน่นอน เพราะมีตีนตุ๊กแกถึง 5 อัน
ข้อแนะนำหลังออกกำลังกาย: เนื่องจากเหงื่อของเรามีส่วนประกอบของเกลือ ทำให้ตัวสายมีกลิ่นเหม็น และอาจมีคราบขาว ๆ เกาะอยู่ได้ เพราะฉะนั้นหลังออกกำลังกาย แนะนำให้นำไปล้างน้ำให้สะอาดก่อน
โดนน้ำ โดนเหงื่อได้มั้ย ? มีกลิ่นเหม็นอับหรือเปล่า ?
สำหรับเรื่องโดนน้ำ แอดได้ลองอ่านรีวิวทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงอ่านคอมเมนต์จากผู้ใช้จริงคนอื่น ๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “แห้งเร็ว” ซึ่งเมื่อแอดลองใส่ออกกำลังกาย ใส่อาบน้ำ เช็ดน้ำออกให้หมาด ๆ และปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แอดใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็แห้งสนิทแล้ว และไม่มีกลิ่นเหม็นอับด้วย
อย่างไรก็ตามนี่เป็นการใช้งานในระยะสั้น ๆ เท่านั้น แต่ถ้ามีการใช้งานในระยะยาว กลิ่นอับก็อาจจะมีให้เห็นได้บ้าง เพราะฉะนั้นจะต้องคอยทำความสะอาดกันบ้าง
Apple Watch ตัวเรือนสีดำหรือสีขาวมากกว่ากัน ?
สำหรับผู้ใช้ Apple Watch สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสี Space Grey และสี Silver ซึ่งโชคดีแอดมี Apple Watch ทั้งสองสี วันนี้แอดเลยจะมาเปรียบเทียบว่านำสาย Sport Loop สีดำ มาใส่กับตัวเรือนสี Space Grey และสี Silver มันเข้ากันมั้ย ? มาจะสวยหรือเปล่า ลองตัดสินกันเองแล้วกันว่า มันสวยแค่ไหน
สำหรับความคิดเห็นของแอด แอดชอบทั้งสองแบบ คือถ้าเป็นสี Space Grey มันก็จะดำมืดไปทั้งหมดดูเข้ากันมาก ส่วนถ้าเป็นตัวเรือนสี Silver สำดำกับสีเงินมันก็มีความต่าง ทำให้ตัวเรือนมันเด่นขึ้นมาเช่นกัน ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหน
มี Apple Watch ที่มาพร้อมสาย Sport Loop ขายมั้ย ?
หลาย ๆ คนสงสัยว่าสาย Sport Loop ทำไมในไทยไม่มีขายพร้อมกับตัวเรือน Apple Watch ทำไมมีแต่แบบขายแยก คำตอบก็คือ Apple Watch ที่มาพร้อมสาย Sport Loop จะมีเฉพาะรุ่น Apple Watch Series 3 GPS + Cellular เท่านั้น และรุ่น Cellular ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้ใครที่อยากได้สาย Sport Loop ตอนนี้ ต้องซื้อสายแยกในราคา 1,900 บาทเท่านั้น
Sport Loop มันลำบากตอนชาร์จแบตมั้ย ?
เนื่องจากสายที่มันเป็นแบบ Loop ทำให้เวลาชาร์จแบตมีปัญหาเล็กน้อย คือ ปกติแล้วถ้าเป็นสาย Sport Band ธรรมดา เราเพียงแค่แปะไปบนแท่นชาร์จเท่านั้น แต่การเป็นสาย Loop ทำให้เราไม่สามารถวางเหมือนเดิมได้ เพราะสายมันบังแท่นชาร์จ เราจะต้องวาง Apple Watch ตะแคงด้านข้างแทน
++ สรุป Sport Loop สีดำ ++
สาย Sport Loop สำหรับ Apple Watch แบบใหม่ล่าสุด สามารถซื้อแยกได้แล้ววันนี้ในราคา 1,900 บาท ข้อดีของมันก็คือ น้ำหนักเบา ใส่สบาย ใส่นอน ว่ายน้ำ อาบน้ำ วิ่ง ออกกำลังกายได้สบาย ดีไซน์สวย ผิวสัมผัสดีมาก คุ้มค่าราคาจริง ๆ เข้ากับ Apple Watch ทั้งสีดำและขาวเลย
ข้อเสียคือ ความคมของขอบสาย Sport Loop ยังคงมีอยู่ หลาย ๆ คนใส่แล้วอาจจะแสบ ๆ มือได้ และการดูแลรักษาจะยากกว่าสาย Sport Band ปกตินิดนึง คือ เนื่องจากการที่มันเป็นสายผ้า มันมีโอกาสเกิดกลิ่นเหม็นอับ และมีขี้เกลือขึ้นได้ เพราะฉะนั้นควรหมั่นทำความสะอาด โดยการล้างด้วยน้ำสบู่ และทำให้แห้งโดยใช้ผ้าเช็ด หรือใช้ไดร์เป่าผมลมเย็น
รีวิวโดย
ทีมงาน MacThai
