รีวิว LG สุดยอด OLED TV ขนาดจอ 65 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K HDR !! พร้อม webOS 3.5
ในช่วงที่ฤดูกาลฟุตบอลกำลังจะกลับมา พร้อมกับซีรีส์และรายการสำคัญๆ ในช่วงท้ายปีแบบนี้ จอทีวีขนาดใหญ่ที่ดูได้ทั้งครอบครัว ก็เป็นตัวเลือกที่หลายคนสนใจ ซึ่งล่าสุด LG ก็ได้ออกทีวีรุ่นใหม่ 65B7T ที่มาพร้อมขนาดสุดอลังการ 65 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ 4K และรองรับ HDR !!
นานๆ ทีจะได้เห็นทีวีจอใหญ่ที่มาพร้อมฟีเจอร์เยอะขนาดนี้ ทีมงานได้ทดลองใช้งานมาแล้ว จะเจ๋งแค่ไหน ลองไปดูกัน
แกะกล่องทีวี LG : OLED TV ขนาดจอ 65 นิ้ว
- แกะกล่องออกมา ก็ต้องบอกเลยว่าจอใหญ่มากกกกกกกกด้วยขนาดของ จอ 65 นิ้วเวลาวางแล้วก็เห็นกันทั่วทั้งห้องเลยทีเดียว
- ดีไซน์ของเครื่อง ตัวจอบางเฉียบ บางกว่านิ้วทีมงานเกินครึ่ง ตัวบอดี้สีขาว ด้านหลังจอสีเงินเงา
- แม้จะจอใหญ่ แต่ความคมชัดได้ระดับ Ultra HD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล
- ตัวจอเป็นแบบ OLED ซึ่งป็นเทคโนโลยีสำหรับจอภาพที่ดีสุดในตอนนี้
- มุมมองด้านข้างได้ 180 องศา
- แถมเมจิกรีโมทมา 1 อัน สามารถใช้เป็น Cursor เวลาเลือกเมนูต่างๆ บนจอได้ด้วย
- ลำโพงอยู่ด้านล่างระบบเสียง Dolby ATMOS เวลาที่เปิดหนังหรือรายการที่รองรับระบบเสียงนี้ ก็จะมีโลโก้ขึ้นมาด้วย เท่สุดๆ เลย
- ด้านหลังมีช่องเสียบพอร์ทให้มาเพียบดังนี้
- 4 HDMI (HDCP 2.2)
- 3 USB
- 1 RF In (Antenna/Cable)
- 1 Composite In
- 1 Ethernet
- 1 Optical
- 1 RS232C (Mini Jack)
- ด้านหลังมีฝาสำหรับเก็บสาย และปิดได้เนียนทีเดียว
- น้ำหนักเครื่องก็เอาเรื่องอยู่ คือหนัก 26.4 กิโลกรัม (รวมฐานขาตั้งแล้ว)
- ระบบ webOS 3.5 ซึ่งเป็นตัวชูโรงของทีวี LG อยู่แล้ว ทำอะไรได้หลากหลายและฉลาดมาก เดี๋ยวจะรีวิวให้ได้ชมกัน
ทดลองใช้งานทีวี LG รุ่น 65B7T ฟีเจอร์จัดเต็ม
ดูที่ตัวเครื่องไปแล้ว เราลองมาเปิดทีวีกันดูดีกว่า ด้วยความที่เราอยากทดสอบทุกอย่างใหม่หมด เลยทำการ reset ระบบ webOS 3.5 ในเครื่อง แล้วเริ่มใหม่จากศูนย์เลย ดูว่าต้องติดตั้งระบบยังไงบ้าง
สำหรับทีวีรุ่นใหม่ๆ แน่นอนว่าด้วยความฉลาดของเครื่อง ก็จะมาพร้อมระบบ OS ที่ต้องมีการติดตั้งเล็กน้อย คล้ายเวลาเราซื้อ MacBook มาใหม่นั่นเอง ซึ่งระบบ webOS นี้ก็มีการพัฒนามาไกล และการติดตั้งก็เพียงเลือกประเทศ เลือกภาษา และเชื่อมต่อ WiFi ก็เป็นอันเสร็จ
ความง่ายของ webOS คือเป็นกราฟฟิคที่สวย ลงแอพได้เพิ่ม ซึ่งพอเลือกที่เมนู ก็จะมีแอพโผล่ขึ้นมาให้เลย โดยที่เราใช้รีโมทเลื่อนซ้ายขวาเอง หรือจะใช้ปลายรีโมทชี้ไปที่จอ จะมี Cursor เหมือน Mouse ให้เราเลือก ซึ่งก็ง่ายกว่ากันมาก และความง่ายนี้แหละถือเป็นจุดเด่นของ webOS
ทดลองเสียบกับคอมพิวเตอร์ ก็จะได้จอเสริมที่ขนาดใหญ่เอาเรื่องเลยทีเดียว เพราะรองรับความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล
นอกจากนั้นยังติดตั้งแอพจากใน LG Content Store เพิ่มได้ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Amazon Prime, Netflix, MonoMaxxx
โดยจะมีแอพของไทยด้วย เช่น ช่อง 7, KrobKruaKao, Nation TV ฯลฯ
แม้ OS จะซับซ้อน แต่ LG ก็ให้ชิประดับ Quad Core มากับเครื่องด้วย ซึ่งจากที่ลองเล่นดู น่าจะเป็นทีวีที่เล่นระบบ webOS ได้ลื่นสุดเท่าที่เคยใช้มา ไม่มีกระตุกให้เห็นเลย
หลายคนอาจจะเริ่มมองทีวีจอโค้งกันมาบ้าง แต่ข้อเสียของจอโค้งคือถึงแม้เครื่องจะสวย แต่พอเราซื้อจอใหญ่ๆ มา การจะดูทีวีพร้อมกันทั้งบ้านจะเป็นเรื่องยาก เพราะจอโค้งเวลามองจากด้านข้างจะเห็นไม่เต็ม หรือสีเพี้ยนได้เยอะ
ทีวีที่ใหญ่ระดับ 65 นิ้วถ้าเป็นจอแบนจะได้เปรียบกว่าเพราะมองได้ชัดทุกมุมซึ่งตัว LG OLED TV รุ่น 65B7T ก็รองรับระดับ 180 องศาเลย
อีกปัญหาของหน้าจอที่ใหญ่คือสีที่ออกมาจากหน้าจอ จะไม่ดำสนิท แต่จากท่ีทดลองดูจอแบบ Neutral Black OLED Panel รุ่นนี้ ข้อดีคือช่วยลดแสงสะท้อน และทำความดำได้ดียิ่งขึ้น ดำเป็นดำสนิทเลยทีเดียว
สำหรับจอทีวี ช่วงหลังเริ่มจะไม่ได้แข่งที่ความละเอียดแล้ว แต่ไปแข่งที่การประมวลผลให้ได้ภาพที่สมจริง เช่น HDR Effect ช่วยให้ภาพที่มาในต้นฉบับแบบ SDR นั้นสามารถยกระดับภาพให้มีความคมชัดใกล้เคียงภาพระดับ HDR ได้
จอ LG รุ่นนี้ก็รองรับ Active Multi HDR ได้ทั้ง 3 รูปแบบ Dolby Vision, HDR10 และ HLG
ทดลองเชื่อมต่อกับ iPhone โดยเราสามารถส่งภาพ, เพลง, วีดีโอ จากจอ iPhone ไปขึ้นที่จอทีวีได้เลย ไม่ต้องเสียบสายหรือต่อผ่านกล่องให้วุ่นวาย
ลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่นการซูมเฉพาะจุด ระหว่างที่ดูรายการหรือหนัง
การใช้เสียงในการพิมพ์ ซึ่งรองรับภาษาไทยด้วยนะ เช่นทีมงานทดลองพูดคำว่า “เรื่องเล่าเช้านี้” ก็มีคำพิมพ์ออกมาให้ครบเลย ไม่ต้องเสียเวลาใช้แป้นพิมพ์ หรือคลิ๊กเลือกทีละคำด้วย
ทดลองต่อเล่นเกม ก็ได้ภาพใหญ่โตอลังการดี แต่ที่น่าจะคุ้มสุดคือระบบเสียง Dolby ATMOS ที่จะกระหึ่มกว่าฟังบนคอมทั่วไป
:: สรุป ::
ข้อดี
- จอภาพใหญ่ (มาก) สีสันสวยงาม ความคมชัดสูง
- รองรับภาพขนาด 4K HDR คมชัดกว่าเดิม, ได้ค่าความสว่างสูงกว่าเดิม, ลดแสงสะท้อนได้ดี
- ใช้ระบบ webOS 3.5 ลื่นไหล รวดเร็ว
- ระบบเสียง Dolby ATMOS และ
ข้อเสีย
- ราคาสูงระดับแสนกว่าบาท แต่ถ้าเทียบในขนาดจอ 65 นิ้ว ก็ไม่ต่างจากในท้องตลาดมากนัก
- แอพของคนไทยหลายตัวยังใช้งานได้ไม่ดีนัก เมื่อใช้ผ่านจอทีวี
หลังจากที่ทดลองใช้ LG OLED TV รุ่น 65B7T ก็พบว่าเป็นทีวีจอใหญ่ที่ครบทุกสิ่งที่ควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดจอขนาด 4K, มี Wi-Fi Built-in, ใช้ระบบ webOS 3.5 ที่ลื่นไหลสุดๆ, รองรับการสั่งพิมพ์ด้วยภาษาไทย และมีฟีเจอร์แทบทุกอย่างที่เราพอจะนึกออกสำหรับทีวี
ทั้งนี้ราคาระดับแสนก็อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่ถ้าใครที่มองหาทีวีตัวใหญ่ ที่ชมได้จุใจทั้งบ้าน พร้อมระบบการแสดงผลที่รองรับ HDR ได้ถึง 3 รูปแบบ (Dolby Vision, HDR10 และ HLG) ระบบเสียงชั้นดี และแสงสีที่ให้มากกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา ซื้อใช้กันยาวๆ หลายปีได้เลย ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม – LG OLED TV รุ่น 65B7T