รู้จักกับโครงการ (RED) ได้ทั้งสินค้าสุดเท่ ได้ทั้งบุญ ช่วยเหลือผู้ป่วย HIV ในแอฟริกา
หลังจากที่เมื่อวาน Apple ได้เปิดตัว iPhone 7 รุ่นพิเศษ คือ iPhone 7 (PRODUCT)RED Special Edition หลายคนคงจะอยากรู้เรื่องราวของโครงการ RED ซึ่ง Apple ได้ร่วมโครงการนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ทางทีมงาน MacThai จึงอยากนำเรื่องราวดี ๆ ของโครงการนี้มาบอกต่อกัน เพราะนอกจากโครงการนี้จะทำให้เราได้สินค้าเท่ ๆ มาใช้งานแล้ว ยังนับว่าได้บุญอย่างมหาศาลเพราะรายได้จากการขายจะนำไปรวมกับกองทุนโรค เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย HIV/AIDS ในทวีปแอฟริกา ที่ยากจนและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
สินค้าของ Apple นั้น เข้าร่วมกับโครงการ RED มาโดยตลอด ตั้งแต่ iPod จนไปถึง iPhone ซึ่งแต่เดิมยังคงจำกัดอยู่แค่พวกอุปกรณ์เสริม และ iPad ซึ่งมีแค่อุปกรณ์เสริมเช่นกัน อุปกรณ์เสริมดังกล่าวก็เช่น เคส, สายของ Apple Watch ซึ่งเมื่อวานก็นับว่าเป็นครั้งแรกที่ Apple ทำ iPhone สีแดงออกมาจำหน่ายเพื่อร่วมโครงการ RED ก่อนหน้านี้จะมีก็แต่ iPod รุ่นต่าง ๆ เท่านั้น
ที่ทางทีมงานใช้คำว่า นำออกมาจำหน่าย ก็เพราะว่า Apple เคยทำสินค้าอื่น ๆ เช่น Mac Pro มาเพื่อเข้าร่วมโครงการ RED แล้ว แต่จะเป็นการประมูลเพื่อการกุศลเท่านั้น ไม่ได้นำมาจัดจำหน่ายให้คนทั่วไปได้เลือกซื้อกัน แน่นอนกว่าการออกแบบนี้ก็อยู่ภายใต้การดูแลของ Jony Ive นักออกแบบมือหนึ่งของ Apple
ซึ่งเจ้า Mac Pro ได้รับการประมูลราคาไปถึง สามสิบสามล้านบาท เลยทีเดียว ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายได้หลายร้อยชีวิต แถมยังทำให้ผู้คนอีกจำนวนมากมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ไม่ใช่เพียงแค่ Apple แต่บริษัทชั้นนำหลายรายก็ได้เข้าร่วมกับโครงการ RED นี้ด้วย แต่ละบริษัทก็ได้มีการนำสินค้าต่าง ๆ มาจำหน่ายเพื่อนำรายได้มอบให้กับ RED เช่น Starbucks, GAP, CocaCola, Bank of America และแบรนด์ดังอื่น ๆ มากมาย เฉพาะ Apple แบรนด์เดียว ก็ได้มอบรายได้ให้กับ RED ไปแล้วกว่า สามพันสี่ร้อยล้านบาท
รู้จักกับ HIV และ AIDS
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า HIV และ AIDS กันมาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่า HIV กับ AIDS นั้นไม่เหมือนกัน
HIV คือมีไวรัสเลือด + (positive) แต่ดูภายนอกเหมือนคนปกติ สามารถกินยาเพื่อต้านได้ และต้องออกกำหลังกายให้ร่างกายแข็งแรง พวกนี้จะดูไม่ป่วย แต่ก็สามารถถ่ายทอดไปให้กับลูกได้
AIDS คือมีไวรัสแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลา ปล่อยร่างกายย่ำแย่ เม็ดเลือดขาวต่ำ จนติดเชื้อฉวยโอกาส ทำให้ออกอาการออกมา ร่างกายเป็นแผลอย่างรุนแรง และต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
จำนวนของผู้ที่ต้องต่อสู้กับ HIV/AIDS ที่สูงมาก
เงินเหล่านี้ได้ถูกจัดสรรไปช่วยเหลือกับประเทศที่มีการระบาดรุนแรงของ HIV/AIDS ในทวีปแอฟริกา ได้แก่
- กานา – มีผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายกว่า 270,000 ราย
เคนยา – มีจำนวนของผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายกว่า 1,500,000 รายเลยทีเดียว - เลโซโท – มีผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายกว่า 300,000 ราย
- รวันดา – มีผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้าย 200,000 ราย
- แอฟริกาใต้ – มีจำนวนผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายมากถึง 7,000,000 ราย (นับว่าสูงที่สุด มากถึง 13% ของประชากรทั้งหมด)
- สวาซิแลนด์ – ผู้ต้องต่อสู้กับโรคร้าย 200,000 ราย
- แทนซาเนีย – ผู้ต้องต่อสู้กับโรคร้าย 1,400,000 ราย
- แซมเบีย – ผู้ต้องต่อสู้กับโรคร้าย 1,200,000 ราย
จะเห็นว่าจำนวนของผู้ที่ต้องต่อสู้กับ HIV หรือ AIDS นั้นนับว่าเป็นจำนวนที่มากจนน่าตกใจ โชคดีมากที่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก ล้วนแล้วแต่พยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือประเทศเหล่านี้ ไม่ว่าจำเป็นความช่วยเหลือด้านการแพทย์ ด้านอาหาร และการพัฒนาความเป็นอยู่ของชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้ความช่วยเหลือในด้านเงินทุนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องการผู้สนับสนุนอย่างมาก
พวกเขาเหล่านี้ได้รับความช่วยเหลืออย่างไร
ปัจจุบัน RED ได้นำเงินที่ได้รับจากผู้ใจบุญทั้งหลายกว่า 465 ล้านเหรียญ หรือประมาณ หนึ่งหมื่นหกพันล้านบาท ไปช่วยเหลือประเทศดังกล่าวในทุก ๆ ด้าน และผู้คนกว่า 90 ล้านคน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เด็ก ๆ ที่เกิดใหม่ได้รับการป้องกันการติดเชื้อจากมารดาสู่เด็ก หรือที่เรียกว่า mother-to-child transmission ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ได้วิจัยมาส่วนหนึ่งก็จากเงินทุนของโครงการ RED ทำให้เด็ก ๆ ที่ได้ลืมตาดูโลก มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่สดใส และสามารถเติบโตได้อย่างมีสุขภาพแข็งแรง
แม้จะมีเทคโนโลยีเช่นนั้น ในทุก ๆ วัน ก็ยังมีเด็กกว่า 400 คน ลืมตาดูโลกขึ้นมาพร้อมกับเชื้อ HIV ติดตัวแต่กำเหนิด ซึ่งทาง RED ก็ได้ตั้งเป้าว่า จะทำวิธีการดังกล่าวมาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และทำให้เด็กทุกคนที่มีโอกาสติดเชื้อ HIV จากมารดา เกิดมาพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดจากเชื้อในที่สุด
RED มุ่งเน้นแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
พวกเขาช่วยเหลือคนเหล่านี้ไปพร้อมกับการให้ความรู้ที่ถูกต้อง และ RED ยังให้ความสำคัญกับการลดจำนวนของเด็กเกิดใหม่ที่มีเชื้อ HIV เมื่อจำนวนของเด็ก ๆ เหล่านี้ลดลง นั่นหมายความว่าอัตราการแพร่กระจายของเชื้อก็จะลดลงด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเราอาจจะยังไม่มีวิธีรักษาที่ดีที่สุด แต่ก็ฝากความหวังกับเด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่เกิดมาว่าพวกเขาจะมีสุขภาพที่แข็งแรง และไม่ต้องทนสู้กับโรคร้ายเหมือนกับที่พ่อและแม่ของเขาต้องพบเจอ
Apple หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ RED มาตั้งแต่ต้น
ความสัมพันธ์ของ Apple กับ RED เริ่มตั้งแต่สมัย Steve Jobs โดยผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งที่เป็นที่จดจำคือ iPod รุ่นพิเศษ U2 ที่มีลายเซ็นของนักร้องวง U2 อยู่ด้านหลัง และเงินรายได้ส่วนหนึ่งที่ได้จากการขาย iPod รุ่นนี้บริจาคให้ RED นับว่าเป็นสินค้า RED ตัวแรก ๆ ของ Apple
แต่ก็มีเรื่องน่าขำเล็กน้อย โดยปกติแล้ว สินค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้จะนำโลโก้ของบริษัท มาอยู่ในวงเล็บ แล้วตามด้วยคำว่า RED ข้างหลัง แต่ Jobs ไม่ต้องการเห็นโลโก้แอปเปิลแทรกอยู่กับสินค้าหรือแบรนด์ใด ๆ ซึ่งทั้งคู่ใช้เวลาเถียงกันอยู่นาน จนสุดท้าย Jobs ยอมแต่แทนที่จะเป็นโลโก้แอปเปิล แต่กลับให้ใช้คำว่า “(Product) RED” อยู่ข้างล่างโลโก้แอปเปิลใน iPod Nano (Gen 4) เมื่อปี 2006 และสินค้าจะวางขายเฉพาะในร้านค้า Apple online เท่านั้น
มาถึงตรงนี้เราก็น่าจะได้รู้จักกับโครงการ RED กันไปแล้ว ท่านใดที่ได้ฟังเรืองราวดี ๆ ของโครงการนี้แต่อาจจะไม่ต้องการที่จะซื้อสินค้าใด ๆ ทาง RED ก็ได้เปิดหน้าเว็บสำหรับรับบริจาคเงินผ่านทางบัตรเครดิตได้ ที่ red.org/donate ซึ่งเราสามารถเลือกจำนวนที่เราต้องการจะบริจาคเองได้ด้วย แล้วแต่กำลังของเรา
หรือใครที่กำลังสนใจสินค้า Apple สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์นี้แล้วล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่ apple.com/th/product-red เพื่อเลือกชมสินค้าต่าง ๆ ได้ โดยราคาของสินค้าพวกนี้ก็จะเท่ากับของปกติไม่มีการอัพราคาใด ๆ
เรียบเรียงโดย – ทีมงาน MacThai
ขอบคุณคำอธิบายเรื่อง AIDS ฉบับเข้าใจง่ายจาก @MLEN_HQ