รวมฟีเจอร์ใหม่บน iOS 10 Beta 5 มาพร้อมเสียงล็อกหน้าจอใหม่
หลังจากที่แอปเปิลได้ปล่อย iOS 10 Beta 5 ให้กับนักพัฒนา และ iOS 10 Public Beta 4 ให้กับผู้ใช้ทั่วไปได้ทดลองใช้กันไปเมื่อวานนี้ ซึ่งได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพียบ วันนี้จึงมาสรุปฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 10 Beta เวอร์ชันใหม่นี้ว่ามีอะไรบ้าง
แก้บั๊ก Smart Battery Case
สำหรับเคสปูด หรือ Smart Battery Case ของ iPhone 6 และ 6s นั้น สำหรับ iOS 10 Beta 5 เวอร์ชันนี้แอปเปิลได้ทำการแก้ปัญหาเครื่องค้าง เมื่อใช้งานกับเคสปูดแล้ว
มีการปรับปรุงฟีเจอร์ในแอพ Photos ใหม่
หนึ่งในฟีเจอร์ iOS 10 นั่นก็คือสามารถจดจำใบหน้าของคนที่เราถ่ายไปได้ ซึ่งในแอพ Photos จะจัดเรียงเป็นโฟลเดอร์ของคน ๆ นั้นได้ทันที ทำให้เราค้นหารูปเพื่อน พ่อแม่ ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ซึ่งใน iOS 10 Beta 5 นี้ แอปเปิลได้ทำการปรับปรุงกระบวนการของฟีเจอร์นี้ใหม่ทั้งหมด ทำให้ ฟีเจอร์จดจำใบหน้ รวมถึงจดจำชื่อ ได้ถูกรีเซตใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เราก็สามารถทำการประมวลผลใบหน้าใน Library เราใหม่ได้
เสียงล็อกหน้าจอแบบใหม่
หลังจากที่แอปเปิลได้ได้มีการเปลี่ยนเสียงคีย์บอร์ด และเสียงล็อกหน้าจอไปแล้วใน Beta เวอร์ชันก่อนหน้านี้ แต่ในเวอร์ชันนี้ แอปเปิลได้เปลี่ยนเสียงล็อกหน้าจอใหม่อีกครั้ง โดยจะมีเสียงคล้าย ๆ เสียงปิดประตู สั้น ๆ ดัง ตึ๊บ !! เสียงนี้ก็แล้วแต่คนจะชอบ บางคนก็บอกเสียงเดิมดีกว่า แต่ปกติแอดก็ปิดเสียงอยู่แล้วเลยไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
ไอคอน Output แบบใหม่
ปุ่ม Output บน iOS เป็นปุ่มที่เราเลือกว่าต้องการนำเสียงไปยังลำโพงบลูทูธ หรือ Apple TV เครื่องไหน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นไอคอนรูปหูฟัง ซึ่งมันไม่สามารถสื่อความหมายเกี่ยวกับการส่งเสียงไปออกลำโพงหรือหูฟังตัวอื่นเท่าไหร่ โดยไอคอนใหม่นี้จะเป็นรูปสามเหลี่ยมและมีรูปคลื่นเสียงล้อมรอบ คล้าย ๆ กับไอคอน AirDrop และ AirPlay ผสมกัน
Home ในแอพ Settings ถูกถอดไปอีกรอบ
การตั้งค่าอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ผ่าน Home ใน Settings บน iOS 10 นั้น เวอร์ชันนี้แอปเปิลได้ถอดออกไปแล้ว ซึ่งการถอดออกไปในครั้งนี้ มีเพียงแค่ iPhone เท่านั้นที่โดนถอดออกไป แต่ใน iPad หัวข้อ Home ยังคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะนำกลับมาใน Beta เวอร์ชันถัด ๆ ไป
Widgets หน้าตาใหม่
เมื่อเราทำการใช้นิ้วปาดลงมาก็จะเจอ Notification Center ซึ่งเมื่อเราทำการปาดไปข้าง ๆ ก็จะเจอหน้า Widgets โดยมีการปรับปรุงหน้าจอใหม่เล็กน้อย นอกจากนี้ยังเพิ่มการแสดงวันที่บนหน้า Widgets อีกด้วย
ที่มา – MacRumors