รีวิว: Epson M200 ปรินเตอร์ InkJet ระบบแท้งค์ ประหยัดกว่าในคุณภาพเทียบเท่าเลเซอร์
ขึ้นชื่อว่าเครื่องปรินเตอร์สำหรับออฟฟิศสำนักงาน ส่วนใหญ่ก็จะเน้นเรื่องของความรวดเร็วในการพิมพ์และประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด ซึ่งล่าสุด Epson ได้ออกปรินเตอร์รุ่น M200 ซึ่งใช้หมึกชนิดพิกเม้นต์ (Pigment) ที่ประหยัดกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์เสียอีก !!
แกะกล่องรีวิวปรินเตอร์ Epson M200
สำหรับปรินเตอร์ Epson M200 นี้ต้องบอกก่อนเลยว่า เนื่องจากเป็นปรินเตอร์ที่เน้นการพิมพ์แบบประหยัดและใช้โหมดพิมพ์ขาว-ดำโดยเฉพาะ ฟีเจอร์จึงไม่ได้มีเยอะแยะมากมาย แต่จะเน้นที่คุณภาพการพิมพ์เสียมากกว่า
อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับเครื่อง
- ปรินเตอร์ Epson M200 สีดำ
- สายเชื่อมต่อแบบ USB, สายไฟ
- คู่มือการใช้งาน
- หมึกพิมพ์สีดำขวดใหญ่ 1 ขวด และขวดเล็ก 1 ขวด
เมนูสำหรับใช้งานด้านหน้า จะมีจอ LCD แสดงสถานะการพิมพ์ และตั้งค่าเมนูต่างๆ ได้เลย นอกจากนี้ก็มีปุ่มที่สามารถใช้ Copy หรือสแกนเอกสารได้ทันที โดยไม่ต้องใช้งานคอมพิวเตอร์เลยก็ได้
ถาดด้านล่างยื่นออกมารับเอกสารที่พิมพ์ได้
ด้านบนเป็นถาดป้อนกระดาษ ADF ป้อนได้สูงสุด 30 แผ่น
สามารถสแกนเอกสาร ความละเอียดสูงสุด 1,200 x 2,400 dpi
จุดเด่นคือหมึกที่ใช้พิมพ์แบบแท็งก์สีดำ ซึ่งจะมีแท็งก์อยู่ด้านข้าง ขวดหมึกที่ให้มาด้วยมีความจุ 140 มิลลิลิตร สามารถพิมพ์ได้มากถึง 6,000 แผ่น และมีหมึกขวดเล็กอีก 70 มิลลิลิตร ทำให้รวมแล้วพิมพ์ได้ 8,000 แผ่น ซึ่งก็ถือว่าแค่หมึกแถมก็ใช้ได้นานแล้ว
สำหรับค่าหมึกขนาด 140 มิลลิเมตรจะอยู่ที่ 690 บาท ทำให้ต้นทุนการพิมพ์อยู่ที่แผ่นละแค่ 11.5 สตางค์เท่านั้นเอง ซึ่งถือว่าสูสีหรือถูกกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์หลายแบรนด์เลยทีเดียว
ปรินเตอร์แบบแท็งก์ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในการเคลื่อนย้ายเครื่อง เพราะหมึกมักจะเอียงและหกเลอะได้ง่าย ซึ่งรุ่น M200 ก็มีปุ่มให้ Lock ตัวแท็งก์หมึกไว้ให้ด้วย ทำให้เวลายกไปมาก็อุ่นใจได้ทีเดียว
พอร์ทที่สามารถเสียบใช้งานได้คือเชื่อมต่อผ่าน USB หรือผ่านทางสาย LAN ซึ่งสามารถใช้ในวง Network ที่บริษัทเป็นเครื่องกลางสำหรับพิมพ์งานต่างๆ ได้เลย เหมาะสำหรับใช้ในสำนักงานได้ดี
ทดลองใช้งานจริง พิมพ์ชัด เร็ว ประหยัดจริง
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ว่าแล้วก็มาทดลองใช้งานจริงกันเลยทีเดียว โดยการเชื่อมต่อกับเครื่องสามารถทำได้ทั้งจากสาย USB หรือสาย LAN ก็สามารถทำได้เช่นกัน (นอกจากนี้ยังสามารถทำได้ผ่าน WiFi แต่เครื่องรุ่นที่ทดสอบเป็นรุ่นเชื่อมต่อผ่าน LAN)
ซึ่งการติดตั้งใช้งานก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร โดยเมื่อเสียบสาย USB กับเครื่อง ซึ่งทีมงานใช้ iMac ก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องลง Driver อะไรให้วุ่นวาย
ทดสอบด้วยการสแกนภาพด้วยความละเอียดขนาด 1,200 x 2,400 dpi จากนั้นพิมพ์ออกมาด้วยความละเอียดสูงสุด ก็ได้ภาพออกมาสวยงามคมดี มองไกลๆ เหมือนภาพถ่ายเลยทีเดียว
จากการทดสอบใช้เวลาพิมพ์ภาพแบบละเอียดประมาณ 24 วินาที ทั้งนี้ขึ้นกับความละเอียดภาพเช่นกัน
เมื่อทดลองพิมพ์เอกสารที่มีทั้งภาพและตัวอักษร ความเร็วในการพิมพ์ถือว่าไวมาก ใช้เวลาประมาณ 19-22 วินาทีต่อแผ่น ส่วนถ้าพิมพ์แบบเอกสารที่มีแต่ข้อความ ไม่มีรูปภาพจะใช้เวลาประมาณ 16-18 วินาที
แน่นอนว่าตัวเครื่องถูกชูขึ้นมาสู้กับเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ ซึ่งด้วยหมึกที่เป็นแบบแท็งก์ทำให้ประหยัดกว่าและหาซื้อหมึกได้ง่าย แต่เมื่อดูที่คุณภาพความคมชัด ก็อาจจะยังไม่ได้คมกริบแบบเครื่องเลเซอร์ก็จริง แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่กว่าอะไรมากมายนัก
ส่วนที่น่าสนใจคือความเร็ว + ความประหยัดที่ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
คุณภาพการพิมพ์อีกอย่างที่น่าสนใจคือการที่ Epson M200 ใช้หมึกชนิดพิกเม้นต์กันน้ำ ทำให้หมึกติดทนนาน ไม่ซีดจาง ขนาดลองเอาน้ำมาเทใส่ (เทเลยนะ ไม่ใช่หยดใส่) จากภาพก็จะเห็นว่าหมึกไม่เลอะออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งน่าสนใจดีทีเดียว
รายละเอียดสินค้า
- Epson M200 เป็นเครื่องพิมพ์แบบ All-in-One
- จอภาพ LCD 2 บรรทัด ภายในตัวเครื่อง
- ค่าใช้จ่ายเพียง 11 สตางค์ต่องานพิมพ์ ขาวดำ 1 หน้า
- ความเร็วในการพิมพ์ 15 รูปภาพต่อนาที (ipm) และความเร็วในการพิมพ์แบบร่างเท่ากับ 34 หน้าต่อนาที (ppm)
- รองรับการใช้งานผ่านแอพ Epson iPrint ผ่านสมาร์ทโฟน สามารถ upload ไปยัง cloud services เช่น Box.net, Dropbox, Evernote หรือ Google Doc
- รับประกัน 2 ปี
- ราคา: 7,490 บาท
:: สรุป ::
Epson M200 ถือปรินเตอร์แบบ InkJet ในระบบแท้งค์ ที่เน้นใช้ในสำนักงานเป็นหลัก เพราะนอกจากความไวและคุณภาพในการพิมพ์ที่สวยงาม รวมเร็วแล้ว ยังประหยัดกว่าการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์อื่นๆ อีกด้วย
สำหรับการใช้งานรวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ถือว่าทำได้ดี นอกจากนี้ยังใช้หมึกที่คงทนและกันน้ำ แม้ราคาจะสูงสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับการประหยัดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมาก ถ้าใครที่เน้นใช้งานในระยะยาว ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติม – Epson M200