กาลครั้งหนึ่งเมื่อ Apple พยายามบุกโลกสังคมนิยม เรื่องราวของ Steve Jobs กับสหภาพโซเวียต
หากจะพูดถึง Apple แล้วหลายคนคงนึกถึงโลกของทุนนิยมอันสุดโต่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่า Apple เติบโตที่นี่และทำกำไรจากที่นี่มากมาย ตั้งแต่ช่วงที่ Steve Jobs เปิดตัว Macintosh ในช่วงปี 1984 แต่เชื่อว่า หลายคนก็คงไม่ทราบว่าครั้งหนึ่ง Steve Jobs เคยพยายามขยาย Apple ไปสู่สหภาพโซเวียต ขั้วฝั่งสังคมนิยมคู่แข่งของสหรัฐอเมริกาภายใต้บรรยากาศของสงครามเย็นด้วย วันนี้ทีมงาน MacThai มีเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์มาบอกเล่าให้ทุกคนฟัง กาลครั้งหนึ่งเมื่อ Apple พยายามเข้าสู่โลกสังคมนิยม
สงครามเย็น
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองการแข่งขันของสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต ดำเนินไปอย่างตึงเครียดภายใต้ยุคที่ทุกคนเรียกว่า สงครามเย็น ในขณะที่อเมริกาดำเนินตามแนวทางทุนนิยมของตนเอง และสหภาพโซเวียตเชื่อมั่นกับการรวมพลังประชาชนสร้างชาติ ในแบบสังคมนิยม แม้ในช่วงหลังอาจจะไม่เข้มข้นเท่าในยุคของผู้นำอย่าง Vladimir Lenin หรือ Stalin แต่ด้วยการแข่งขัน ทำให้สหภาพโซเวียตยังต้องคงความเย็นชาและยึดมั่นในการปกครองแบบนี้มาเรื่อย ๆ
เมื่อ Steve Jobs เดินทางเยือนโซเวียต
ฤดูร้อนปี 1985 ในสมัยรัฐบาลของ Mikhail Gorbachev เพียงหนึ่งปีหลังจากที่ได้เปิดตัว Macintosh คอมพิวเตอร์ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล Steve Jobs และคณะ Apple ได้เดินทางไปยัง มอสโก เมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของสหภาพโซเวียต ซึ่งนับเป็นการเดินทางเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวของ Steve Jobs ที่ได้ไปเยือนดินแดนหมีขาวหิมะแห่งนี้ เวลาสั้น ๆ เพียงสองวัน Steve Jobs และคณะ ความพยายามของพวกเขาในการมาเยือนดินแดนแห่งสังคมนิยมแห่งนี้ก็คือการขาย Macintosh ให้กับชาวโซเวียตรัสเซียให้ได้
Steve Jobs ได้รับโอกาสให้เข้าไปบรรยายในชั้นเรียนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ด้วย หลังจากนั้น Jobs ได้เข้าร่วมการฉลองวันชาติสหรัฐอเมริกา ณ สถานทูตสหรัฐในกรุงมอสโก (ซึ่งตรงกับวันที่ Jobs เดินทางเยือนพอดี)
จากนั้นคนอย่าง Steve Jobs ก็ก่อเรื่องจนได้ เมื่อเขาเกือบจะมีเรื่องกับตำรวจ KGB หรือหน่วยตำรวจลับของสหภาพโซเวียต (ถ้าใครที่รู้ประวัติศาสตร์พอสมควรน่าจะทราบดีกว่า ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็อย่าได้ไปหาเรื่อง KGB เชียว) ส่วนสาเหตุก็คือ Jobs นั้นได้ไปพูดถึงเรื่องการลอบสังหาร Leon Trotsky นักการเมืองโซเวียต และผู้ก่อตั้งและผู้นำของกองทัพแดงแห่งโซเวียต ที่ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีของ สตาลิน
โชคดีที่ Jobs ยังรอดชีวิตมาได้และไม่โดนลอบสังหารโดย KGB ไปซะก่อน ( ซึ่งภายหลังหน่วยงาน KGB ถูกยุบไปเมื่อปี 1991 หลังก่อกบฏประธานาธิบดีกอร์บาชอฟ)
Academy of Sciences แห่งสหภาพโซเวียต
การบรรยายดังกล่าวเดินขึ้นที่ Institute of Informatics Problems ใน Academy of Sciences ของสหภาพโซเวียต โดยทางทีมงานก็ขอสรุปเนื้อหาคร่าว ๆ ของการบรรยายในครั้งนั้นจาก บทความต้นฉบับ (ภาษารัสเซีย)
ในช่วงเริ่มต้นของการบรรยาย Steve Jobs ได้เสนอให้ใช้คอมพิวเตอร์ Macintosh ในการเรียนการสอน โดยเขาเคลมว่า Apple นั้นมีประสบการณ์ในการผลิตคอมพิวเตอร์สำหรับโรงเรียนที่ใช้ในสหรัฐเมริกา เขายังกล่าวว่าเขาเป็นคน Silicon Valley โดยแท้ เรื่องของคอมพิวเตอร์นั้นอยู่ในสายเลือด
Jobs พูดถึงการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและการเขียนโปรแกรม เขาเปรียบเทียบความแตกต่างของโปรแกรมรายการทีวี กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่าโปรแกรมจากทีวีมากกว่าคอมพิวเตอร์ แต่ Jobs ก็อธิบายว่าหากทุกคนเรียนรู้การเขียนโปรแกรมย่อมเป็นการปฏิวัติวงการศึกษาแน่นอน
ถ้าเขามีลูก เขาก็อยากจะสอนลูกให้ใช้ Apple II และ Macintosh จากนั้นก็เริ่มขายของโดยการบรรยายข้อมูลของ Macintosh ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล และการสั่งการข้อมูลแบบใหม่ที่เรียกว่า Graphic User Interface ซึ่ง Jobs บอกว่าถ้าหากสนใจ Macintosh เขาสามารถทำ Macintosh ให้เป็นภาษารัสเซียและเพิ่ม Keyboard ที่มีตัวอักษร Cyrillic (อักษรรัสเซีย) ให้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
ในตอนจบเขายังได้ให้ Boris Nikolaevich Naumov นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ชาวโซเวียตได้ลองใช้ Macintosh ส่งอีเมลไปหาแฟนของ Naumov ด้วยรูปภาพพระราชวังเครมลิน พร้อมกับคำว่า “Я тебя люблю” ซึ่งแปลว่า “ฉันรักเธอ” แล้ว Jobs ก็บอกว่า “เห็นไหมล่ะ เธอต้องแปลกใจแน่ ๆ เลย”
ขอเปิดโรงงานในสหภาพโซเวียต
Steve Jobs และคณะได้เข้าพูดคุยกับ Mike Merin ทูตสหรัฐประจำสหภาพโซเวียตเรื่องแผนที่จะขอเปิดโรงงานผลิต Macintosh ในสหภาพโซเวียต ซึ่งแน่นอนว่าเขาถูกปฏิเสธและตักเตือน เพราะนั่นเป็นการละเมิดข้อตกลงหลายข้อเกี่ยวกับสินค้าส่งออกของสหภาพโซเวียต (ซึ่งใคร ๆ ก็น่าจะรู้ว่ามันทำไม่ได้) อีกทั้งอาจจะเป็นการปล่อยให้เทคโนโลยีของทางสหรัฐรั่วไหลเข้าสู่สหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของสหรัฐ
ก่อนหน้านี้สหภาพโซเวียตก็ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Agat ซึ่งดูยังไง มันก็คือ Apple II ชัด ๆ คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนาในปี 1983 โดยคาดว่าลอกเลียนแบบมาจากการทำงานของ Apple II สำหรับใช้ในงานเอกสารทั่วไป และใช้สอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม นิตยสาร BYTE ได้กล่าวเอาไว้ในปี 1984 ว่าคอมพิวเตอร์ Agat นั้น “ห่วยกว่าที่คิด” ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ของอมริกาจะรั่วไหลไปยังฝั่งสหภาพโซเวียตมากนัก
จ็อบส์ก่อเรื่องอีกแล้ว
จริง ๆ แล้ว Steve Jobs นั้นหัวดื้อมาก แม้จะโดนหมายหัวจาก KGB แต่ก็ยังไม่เข็ด หลังจากที่เขาถูกปฏิเสธในการตั้งโรงงานในสหภาพโซเวียต Jobs ยังไปเถียงท่านทูตอีกว่า “แกเป็นใครวะ พวกแกมันก็แค่ข้าราชการ แกจะไปรู้อะไรกับเรื่องแบบนี้” ทำให้ทีม Apple ทั้งทีมเสียวสันหลังวาบไปตามกันก่อนที่จะช่วยดึงให้จ็อบส์ใจเย็นลง
จากนั้นทีมงาน Apple และ Jobs ก็ขึ้นเครื่องบินกลับไปก่อนที่จะพวกเขาจะก่อเรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้ เป็นอันว่าผลการเจราครั้งนี้ไม่ได้อะไรเลย นอกจากโดนหมั่นไส้และเกือบจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (ซึ่งเดิมทีก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว)
สรุป
เรื่องราวดังกล่าวไม่มีการตีพิมพ์จนเมื่อถึงยุคสิ้นสุดของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ซึ่งหลังจากนั้นความสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึง Apple เอง เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีรัสเซีย Dmitry Medvedev เดินทางเยือน Silicon Valley ในปี 2010 นั้น Steve Jobs ก็ได้มอบ iPhone 4 ให้เป็นของขวัญ และถ่ายภาพเซลฟีร่วมกันด้วย
เป็นอันว่าเราได้รู้ในอีกด้านหนึ่งของเรื่องราวระหว่าง Apple กับสหภาพโซเวียตซึ่งดู ๆ แล้วก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ (ก็ไม่รู้ว่าในตอนนั้น Jobs คิดอะไรถึงอยากเปิดโรงงานในโซเวียต) ซึ่งก็เป็นอีกมุมหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่น้อยคนจะกล่าวถึงเนื่องจากเอกสารและเรื่องราวต่าง ๆ หายากมาก ๆ และส่วนมากก็ตีพิมพ์เป็นภาษารัสเซีย
เรียบเรียงโดย – ทีมงาน MacThai
อ้างอิง – Radio Free Europe/Radio Liberty , PC Week.ru