Apple อธิบายรายละเอียด Differential Privacy ว่าใช้กับความสามารถไหนบ้าง
Apple ได้ประกาศในวันงาน WWDC 2016 ว่าตั้งแต่ iOS 10 จะใช้ Differential Privacy เพื่อเก็บข้อมูลในขณะเดียวกันก็ยังสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใชได้
Apple นั้นยังต้องเผชิญกับความท้าทาย คือบริษัทก็ต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ขณะที่ก็ต้องทำให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองฉลาดพอไปแข่งกับคนอื่นได้ ก็ต้องนำข้อมูลมาสอนเยอะ ๆ ซึ่ง Apple ก็เลือกใช้ Differential Privacy ในกรณีนี้
Apple ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Differential Privacy ไว้ดังนี้
- ข้อมูลแบบ Differential จะถูกใช้ครั้งแรกกับ iOS 10 และ Apple ไม่เคยเก็บข้อมูลมาเลยในก่อนหน้านี้
- การตัดสินใจใช้งานข้อมูลของ Apple นี้จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะอนุญาตแค่ไหน
- Apple จะไม่ใช้ภาพจาก iCloud ของผู้ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของ Image Recognition แน่นอน แต่จะใช้ข้อมูลอื่น ๆ แทน (Apple ไม่ได้บอกว่าใช้ข้อมูลจากอะไร บอกแค่ไม่ใช่ภาพของผู้ใช้ที่เก็บไว้)
นอกจากนี้ Apple อธิบายเพิ่มเติมว่า Differential Privacy จะถูกจำกัดให้ใช้อยู่แค่ 4 กรณีเท่านั้นคือ
- คำใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มเข้าไปในพจนานุกรมของอุปกรณ์ เพื่อให้เดาคำได้ดีขึ้น
- emoji ที่ผู้ใช้ได้ใช้งาน จะเอาไปใช้ในการแนะนำ emoji
- deep link ที่ใช้งานในแอพ
- lookup hints ใน notes
Apple เริ่มใช้ระบบการเรียนรู้เริ่มจากฟีเจอร์ Proactive บน iOS 9 แล้ว แต่นั่นคือเก็บข้อมูลและเรียนรู้ทุกอย่างในเครื่อง แต่ Differential Privacy นี้ก็คือการนำข้อมูลไปใช้บนเซิร์ฟเวอร์ Apple จริง ๆ ซึ่ง Apple ก็ทำให้ระบุตัวตนไม่ได้และขึ้นอยู่กับการอนุญาตของผู้ใช้ด้วย
ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมในวงการไอที ซึ่งบริษัทที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ขั้นสุดยอดอย่าง Apple นั้นก็เลือกที่จะยังคงเก็บความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มาเป็นอันดับหนึ่งเช่นเคย ต่างกับบริษัทอื่น ๆ ที่เลือกเก็บข้อมูลทุกอย่างของผู้ใช้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าวิธีของ Apple นี้จะช่วยให้บริษัทนำปัญญาประดิษฐ์ไปสู้กับ Google, Facebook หรือบริษัทอื่น ๆ ได้หรือไม่
ที่มา – Recode
