รวม Smart Watch สุดเจ๋งในงาน CES 2016 เตรียมท้าชน Apple Watch มาดูกันว่ามีรุ่นอะไรบ้าง ?
งาน CES 2016 เป็นงานที่รวบรวมบริษัทและผู้ผลิตจากทั่วทุกมุมโลก มาจัดแสดงสินค้า ของเล่นและเทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มาจัดแสดงภายในงาน ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นทุก ๆ ปีในเดือนมกราคม และปีนี้จัดขึ้นที่ Las Vegas โดยสินค้าที่ทุกคนจับตามองอย่างมากในปีนี้ก็คือ อุปกรณ์สวมใส่, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายต่าง ๆ รวมไปถึงรถ หุ่นยนต์และอีกมากมาย
หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch ไป ผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะหลาย ๆ เจ้าก็เริ่มเห็นแนวทางของตลาดแล้วว่า ผู้บริโภคต้องการอะไร อยากได้แบบไหน และในปีนี้เรียกได้ว่า หลายเจ้าทำออกมาแบบจัดเต็ม และสวยขึ้นกว่าเก่ามากเลยทีเดียว และวันนี้ทีมงาน MacThai จะรวบรวม Fitness Tracker, Smart Watch หรืออุปกรณ์สวมใส่อื่น ๆ ที่เจ๋ง ๆ มาให้ดูกัน
Fitbit Blaze
เริ่มกันที่เจ้าแรก Fitbit เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา Fitbit ได้เปิดตัว Smart Fitness Watch คือเด่นทั้งเป็นอุปกรณ์ Fitness Tracker และการเป็น Smart Watch นั่นเอง โดยเจ้าตัว Fitbit Blaze มีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่ใช้ในการออกกำลังกาย ได้แก่ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้, มีแอพ FitStar ไว้ช่วยในการ Workout, วิเคราะห์การนอนหลับลึกหลับตื้น, นับก้าว, คำนวณแคลอรี่ได้ แต่รุ่นนี้ไม่มี GPS ในตัว ต้องเชื่อมต่อกับมือถืออีกที
ส่วนฟีเจอร์ที่เป็นด้าน Smart Watch ได้แก่ มีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกหลายแบบ, แจ้งเตือน SMS, ปฏิทินและคนโทรเข้าได้, สามารถควบคุมการเล่นเพลงได้, ตั้งปลุกแบบสั่นเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเป็นจอสี LCD แบบสัมผัสและแบตเตอรี่อยู่ได้ 5 วัน อีกด้วย
Fitbit Blaze ยังสามารถใช้งานได้ทั้ง iOS, Android, Windows Phone ส่วนราคาอยู่ที่ $199.95 หรือประมาณ 6,700 บาท และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนคมนี้ และยังไม่มีกำหนดว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่
Samsung Gear S2
ต่อมาก็คือ Samsung Gear S2 หลังจากที่ซัมซุงหลงทางกับการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ของตัวเองอยู่นานพอสมควร ตอนนี้ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ซึ่งในงาน CES 2016 ซัมซุงได้เปิดตัว Gear S2 คอลเลคชั่นใหม่เพื่อต่อกรกับ Apple Watch Edition
โดยรุ่นแรกตัวเรือนทำจากทอง 18 กะรัต ซึ่งเป็น Rose Gold สียอดนิยมแห่งปี มาพร้อมสายหนังแท้สีขาวงาช้าง อีกรุ่นหนึ่งก็คือตัวเรือนทำจาก Platinum 100% สายทำมาจากหนังสีดำแท้ โดยทั้งสองรุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ แต่ยังไม่มีกำหนดว่าจะเข้ามาขายในไทยเมื่อไหร่
ส่วนจุดเด่นของเจ้า Gear S2 ก็คือหน้าปัดกลม ถูกใจหลาย ๆ คน หน้าจอ sAMOLED แบบสัมผัส มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Tizen, หน่วยความจำ 4 GB, RAM 512 MB มีแยกเป็น 2 รุ่นด้วยกันคือรุ่นธรรมดาที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับรุ่นที่ใส่ซิมใช้ 3G/4G ได้
และที่สำคัญซัมซุงยังประกาศอีกว่า Gear S2 จะรองรับการทำงานบน iOS อีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ส่วนวันที่ปล่อยแอพขึ้น App Store คาดว่าซัมซุงจะเปิดให้โหลดกันช่วงสิ้นปีนี้
Huawei Watch
Huawei ก็เป็นอีกเจ้าที่อัพเกรดนาฬิกาของตัวเองเพื่อแข่งความหรูหรากับเจ้าอื่น ๆ ซึ่งในงานได้เปิดตัว Huawei Watch 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ Huawei Watch Jewel และ Elegant ทั้งสองตัวเรือนทำมาจาก Stainless Steel เกรด Cold-Forged 316L สี Rose Gold โดยรุ่น Jewel มีคริสตัลจาก Swarovski Zirconias ส่วนรุ่น Elegant จะมีคริสตัลวางเรียงแบบ Clous De Paris Pattern ดูหรูหรา
ส่วนตัวสายนาฬิการุ่น Jewel ทำมาจากหนังแท้สี Sapphire Blue ส่วนรุ่น Elegant มีสีขาวมุข หน้าปัดนาฬิกาทำมาจาก Sapphire crystal เหมือนกับ Apple Watch ซึ่งความแตกต่างของรุ่นปกติ และรุ่น Jewel และ Elegant ก็คือ รุ่นปกติตัวเรือนจะมีความบางกว่า เบากว่า นอกนั้นเหมือนกันทุกอย่าง
โดยสเปคหลัก ๆ ก็คือ หน้าปัดเป็นวงกลมขนาด 1.4 นิ้ว, สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้, มีเซ็นเซอร์ Barometer, Gyroscope และ Accelerometer, Bluetooth 4.1 LE, Wi-Fi, มีแบตเตอรี่ 300 mAh ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear และฟีเจอร์หลัก ๆ ก็เหมือน Smart Watch ทั่วไป แบตเตอรี่อยู่ได้ 1.5 วัน ชาร์จ 0 ถึง 80% ภายใน 45 นาที และที่น่าสนใจที่สุดค่ะรองรับทั้ง iOS และ Android ด้วย
ส่วนราคาไม่มีการประกาศออกมาอย่างแน่ชัด แต่น่าจะแพงมาก และจะเริ่มวางจำหน่ายในอังกฤษก่อนซึ่งจะเริ่มขายภายในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนรุ่นธรรมดาสามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไปในประเทศไทย ราคาเริ่มต้นที่ 12,500 บาท
Misfit Ray
นอกจากนี้ก็มี Misfit ที่เป็น Fitness Tracker รูปทรงกระบอก ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเราสามารถร้อยเชือก สายหนัง หรือทำเป็นจี้ห้อยคอก็ยังได้ ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม แบบเดียวกับ Apple Watch Sport มีสีดำ และสี Rose Gold ให้เลือก ส่วนสายมี 2 แบบคือ แบบยางราคาอยู่ที่ $99.99 (ประมาณ 3,400 บาท) และสายหนังอยู่ที่ $119.99 (ประมาณ 4,000 บาท)
เซ็นเซอร์ด้านในมี Accelerometer 3 แกน, ระบบสั่น, Bluetooth 4.0 LE สามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร โดยความสามารถหลัก ๆ ก็คือการนับก้าว ระยะทาง แคลอรี่ และตรวจจับการนอนทั่วไป นอกจากนี้ยังมีไฟ LED สีต่าง ๆ คอยบอกสถานะ ซึ่งเราก็ต้องจำสีให้ได้ว่าเป็นคนโทรเข้า ข้อความเข้า หรือว่าเป็นการเตือนการออกกำลังกายว่าถึงเป้าหมายกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
Misfit Ray มีแอพทั้งบน iOS และ Android ซึ่ง เราเลือกประเภทกีฬาในการออกกำลังกายได้หลายอย่าง ส่วนวันวางจำหน่ายยังไม่ระบุแน่ชัด บอกแค่ว่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้แน่นอน
Casio WSD-F10
ผู้ผลิตนาฬิการายยักษ์ก็ลงมาเล่นตลาด Smart Watch เช่นกัน ล่าสุด Casio ก็ได้เปิดตัว WSD-F10 นาฬิกาสายพันธุ์ Android Wear เครื่องแรกของ Casio เลยก็ว่าได้ โดยรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกลางแจ้ง ซึ่งผ่านมาตรฐานการทดสอบทางทหารในสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งตัวเรือนสามารถกันฝุ่น กันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร มี Bluetooth 4.1 LE, Wi-Fi ในตัว สามารถลงแอพต่าง ๆ ได้
หน้าจอ LCD 1.32 นิ้ว มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดความดันอากาศและความสูง, Accelerometer, Gyrometer และเข็มทิศ ยิ่งไปกว่านั้นมีไมโครโฟน มีระบบสั่น แบตเตอรี่อยู่ได้นานประมาณ 1 วันสำหรับใช้งานปกติ ถ้าเปิดดูนาฬิกาอย่างเดียวอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน สามารถใช้งานทั้ง iOS และ Android อีกด้วย
Fossil Q54 Pilot
Fossil ผู้ผลิตนาฬิกาและอุปกรณ์เสริมด้านแฟชั่น ได้เปิดตัว นาฬิกาอัจฉริยะรุ่น Q54 Pilot ใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีตระกูล Q Series ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Founder, Reveler, Grant และ Dreamer โดยเจ้ารุ่น Q54 Pilot นี้เป็นนาฬิกาปกติทั่วไป สามารถนับก้าวและแจ้งเตือนข้อความใหม่ ๆ จากสมาร์ทโฟนได้ แต่ไม่สามารถลงแอพ อ่านข้อความ ควบคุมเพลง เหมือนกับ Smart Watch รุ่นอื่น ๆ ได้
รุ่นนี้มี 2 แบบให้เลือกคือสายหนังสีน้ำตาล และสายเหล็กสีเทา สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS และ Android ได้เหมือนกัน ส่วนราคายังไม่ระบุแน่ชัดแค่คาดว่าจะอยู่ราว ๆ 175-215 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,900-7300 บาท
จะเห็นว่า Smart Watch หรือ Fitness Tracker ที่เปิดตัวภายในงานตามรอย Apple Watch แทบทั้งหมด ซึ่งจะเห็นได้ชัดเลยก็คือ พยายามที่จะทำนาฬิกาแฟร์ชันมากขึ้น ไม่ดูเป็นนาฬิกาที่ดูสะดุดตาเมื่อสวมใส่ อีกทั้งยังยกระดับนาฬิกาของตัวเองให้ดูพรีเมียมขึ้นโดยการเลือกใช้วัสดุที่ดี ราคาแพง
และสีที่ได้รับความนิยมที่สุดคงจะหนีไม่พ้นสีชมพู Rose Gold นั่นเอง และที่สำคัญผู้ผลิตพยายามที่จะทำให้รองรับทั้ง iOS และ Android เพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้นไปอีก งานนี้แอปเปิลงานหนักแน่ ๆ เพราะคู่แข่งมาแรงจริง ๆ ต้องคอยดูต่อไปว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Apple Watch 2 ตามข่าวลือก่อนหน้านี้หรือไม่
เรียบเรียงโดย
ทีมงาน MacThai