รู้จักกับ GrabBike บริการเรียกรถจักรยานยนต์ ส่งคนและพัสดุ โดย GrabTaxi
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา GrabTaxi บริษัททำแอพเรียกรถแท็กซี่ ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ GrabBike บริการเรียกรถจักรยานยนต์ที่รองรับทั้งการส่งผู้โดยสาร และการส่งพัสดุเอกสาร
GrabBike ทำงานผ่านการเรียกบนแอพพลิเคชั่น GrabTaxi โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 (ต่อจาก เวียดนาม และอินโดนีเซีย) และเมืองที่ 4 (ต่อจากฮานอย, โฮจิมินห์ และจาการ์ต้า) ที่เปิดให้บริการนี้
คุณจุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้บริหาร GrabTaxi เผยที่มาของ GrabBike ว่าถือกำเนิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์หลักคือ การใช้ทรัพยากรบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุด, เพิ่มรายได้ให้คนขับ, สามารถเชื่อมโยงผู้ใช้งานและคนขับให้ง่ายขึ้น และคิดราคาของการขับขี่ที่เป็นธรรม
สำหรับวิธีการเรียก GrabBike ง่ายมากๆ เพียงดาวน์โหลดแอพ GrabTaxi ใน App Store, Play Store หรือ BlackBerry World เปิดแอพ กดเลือกบริการ GrabBike, เลือกต้นทางและปลายทาง เสร็จแล้วเราสามารถเลือกจ่ายเงินได้ทั้งแบบตอนยังไม่ได้ขึ้นรถ หรือหลังขึ้นรถจักรยานยนต์แล้ว
สำหรับ GrabBike ก็จะยังคงคอนเซปต์เดิมที่ GrabTaxi ยึดถือคือ ปลอดภัย, รวดเร็ว และมั่นใจ
- ปลอดภัย ด้วยการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม รวมถึงมีประกันภัยอุบัติเหตุที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 2,000 บาท
- รวดเร็ว GrabTaxi เคลมว่า ผู้ใช้จะรอรถไม่เกิน 5 นาที และเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด เพื่อให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด และราคาเป็นธรรมที่สุด
- มั่นใจ ด้วยค่าโดยสารที่แน่นอน ในราคาเริ่มต้น 35 บาทในกิโลเมตรแรก 10 บาทในกิโลเมตรถัดไป และ 12 บาทในกิโลเมตรที่ 10 ขึ้นไป, รองรับการแชร์และติดตามการเดินทาง มีการอบรมคนขับ และตรวจสอบประวัติอยู่เสมอ
ผลตอบรับ
ในช่วงที่เปิดทดสอบบริการในแบบ alpha เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผลตอบรับค่อนข้างดี โดยคนขับรถจักรยานยนต์ได้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า รวมถึงได้รับการช่วยเหลือจาก GrabBike เป็นอย่างดีในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่วนทางด้านผู้ใช้ก็ค่อนข้างประทับใจที่ได้รับความสะดวกสบาย
จากสถิติของ GrabTaxi ที่เผยออกมาระบุว่า บริการนี้มียอดดาวน์โหลดทั้งบน App Store, Play Store และ BlackBerry World จำนวนกว่า 6.1 ล้านครั้ง มียอดเรียกใช้บริการถึง 11 ครั้งต่อวินาทีทั้ง 6 ประเทศในเอเชีย โดยผู้บริหารฝ่าย GrabBike คุณพัชร ล้อจินดากุล มั่นใจว่า GrabBike จะช่วยให้คนขับรถจักรยานยนต์และผู้ใช้บริการได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
ช่วงถามตอบข้อสงสัย
Q: ตอนนี้ GrabBike มีคนสมัครเข้ามาแล้วกี่คน และคนขับเป็นคนขับขี่รถประเภทไหน
A: ตอนนี้เป็นหลักร้อย (ราว ๆ ประมาณ 90-100 คนต่อวัน รองรับการเดินทางระดับพันเที่ยว) ส่วนเงื่อนไขของคนขับเป็นทุกคนที่มีเอกสารพร้อม (ต้องมีใบขับขี่สาธารณะ ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องผิดกฎหมาย) และประวัติอาชญากรรมที่ไม่ด่างพร้อย
Q: จากกรณีที่จาการ์ต้าที่พบว่ามีปัญหาขัดแย้งกับจักรยานยนต์รับจ้างท้องถิ่น สำหรับประเทศไทยพบปัญหาพวกนี้หรือไม่
A: ในมุมคนขับถือว่าเป็นตัวช่วยสำหรับการเดินทาง ส่วนในไทยไม่มีปัญหาอะไร และได้การตอบรับที่ค่อนข้างดีพอสมควร
Q: อัตราการให้บริการของ GrabBike เป็นอย่างไรบ้าง
A: กิโลเมตรแรก 35 บาท, กิโลเมตรถัดไป 12 บาท, กิโลเมตรที่ 10 ขึ้นไป กิโลเมตรละ 15 บาท (มีรายละเอียดที่เว็บไซต์ของ GrabTaxi)
Q: ครึ่งปีหลังจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึงเท่าไร และยอดดาวน์โหลดเท่าไร
A: ไม่ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จะบริหารให้มีรถขับ
Q: ส่วนแบ่งระหว่างคนขับกับบริการ GrabBike อยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์
A: มีอัตราอยู่ที่ 85:15 แบ่งเป็นของคนขับ 85% และของ GrabBike 15% จะแบ่งในทุก ๆ ครั้งที่มีการเดินทาง
Q: ความคาดหวังบริการนี้กับ 3-4 บริการเดิมที่มีอยู่ จะมาแรงไหม
A: ทุกๆ บริการของเราตอนนี้ถือว่ามาแรงอยู่ค่ะ
Q: ก่อนเปิดบริการนี้ มีการพูดคุยกับกรมการขนส่งทางบกแล้วหรือยัง
A: ปกติแล้ว ทางเราเองก็พูดคุยกับทางกรมการขนส่งทางบกมาตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ อย่างบริการนี้เราเองก็เข้าไปสอบถามกับทางกรมการขนส่งทางบกด้วยเหมือนกัน
Q: รายได้รวมทั้งบริษัทตั้งเป้าว่าเท่าไร
A: ยังไม่พูดถึงรายได้ ขอเน้นที่การสเกล และการเดินทาง และเราเองไม่ได้ตั้งเป้า ดูที่จำนวนเที่ยวมากกว่า ถ้าหากกำหนด จะสเกลยาก (ส่วนแบ่ง 30% ของตลาด ให้เร็วที่สุด) อีกทั้งเราเองก็ไม่สามารถวัดจากในไทยได้ เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะเป็นข้อมูลรวมกัน 6 ประเทศ
Q: รถจักรยานยนต์ที่ขับขึ่นั้นใช้ป้ายแบบไหน
A: สำหรับรถที่เน้นสำหรับการให้คนนั่งจะเป็นรถเป็นป้ายเหลือง ส่วนรถส่งของส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทรับจ้าง
Q: ทั้งทวีปและในไทยตำแหน่งตอนนี้เป็นเท่าไร
A: ตอนนี้เป็นที่ 1 อยู่ ถือว่าค่อนข้างใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Q: การลงทุนในประเทศไทยตอนนี้เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
A: เราต้องลงทุนในทุกๆ ด้าน ทั้งบุคคลากร, คนขับ, ลูกค้า ซึ่งปีนี้จะเน้นไปที่สวัสดิการของบุคคลากร และที่เหนือกว่าคือจะมีผู้ติดต่อรับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง ใช้งบประมาณเยอะพอสมควร หลายร้อยล้านบาท ทั้งทวีป ภายใน 14 เดือน
สำหรับผู้ใช้ที่สนใจ สามารถเรียกใช้บริการ GrabBike ผ่านแอพพลิเคชั่น GrabTaxi ได้แล้วในกรุงเทพมหานคร และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการมาของบริการนี้ในไทย ผู้เรียกสามารถเรียกใช้บริการได้ในราคาเพียง 35 บาทไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็ราคาเดียว เพียงพิมพ์รหัส BIKEBETA ก่อนเรียกรถ (ใช้ได้เพียงแค่ครั้งแรกเดียวเท่านั้นครับ)
สำหรับผู้อ่าน MacThai หากใส่ GBSPECIAL จะสามารถนั่ง GrabBike ได้ฟรี 10 ครั้ง (แต่โค้ดนี้ใช้ได้เพียง 1,000 คนแรกที่ใส่เท่านั้น และใช้ได้ถึง 18 สิงหาคมนี้)
ขอบคุณภาพและการรายงานจาก @Be1con เรียบเรียงโดย ทีมงาน MacThai