บุกไปถึงถิ่น! iPhone 6/6 Plus มียอดจองทิ้งห่าง Galaxy Note 4 ในเกาหลีใต้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดให้จอง iPhone 6/6 Plus ในประเทศเกาหลีใต้ผ่าน 3 เครือข่าย ในเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมงนั้นก็ประกาศแล้วว่ายอดจองของ iPhone 6/6 Plus มีถึง 100,000 เครื่อง
KT Corp. เครือข่ายโทรศัพท์ในเกาหลีใต้ได้ประกาศยอดจองว่าทั้งสองรุ่นมียอดจองรวมกันกว่า 10,000 เครื่องในเวลาเพียง 1 นาที และแตะ 50,000 เครื่องในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ฝั่ง LG Uplus Corp. ได้ขาย iPhone เป็นครั้งแรกเช่นกัน โดยกล่าวว่าภายใน 20 นาทีแรกก็มียอดจองกว่า 20,000 เครื่องแล้ว ส่วน SK Telecom Co. เครือข่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้กลับไม่ได้ให้ข้อมูลยอดจองแต่อย่างใด บอกเพียงว่ายอดจอง iPhone ที่เปิดให้ถึง 2 รอบเต็มหมดแล้ว โดยจะเปิดรอบสามอีก
นักวิเคราะห์ต่างคาดกันว่า iPhone 6/6 Plus น่าจะมียอดจองรวม 3 เครือข่ายในเกาหลีใต้กว่า 100,000 เครื่อง
ยอดจอง iPhone 6/6 Plus ถึง 100,000 เครื่องนี้คงจะอดไม่ได้ที่สื่อจะเอาไปเทียบกับคู่กัดอย่าง Samsung Galaxy Note 4 ที่ยอดจองเพียง 30,000 เครื่องเท่านั้น และคาดว่าเมื่อแยก iPhone 6 Plus ที่เป็นคู่แข่งที่แท้จริงของ Note 4 ออกมาก็ยังเยอะกว่าอยู่ดี
ในไตรมาสที่ 2 นั้น ข้อมูลจาก Counterpoint Research กล่าวว่า ส่วนแบ่งตลาดมือถือของ Apple ในเกาหลีใต้นั้นยังคงอยู่ที่ 6% รั้งอันดับที่ 4 โดยมีอันดับ 1 คือ Samsung ที่ 63%, LG ที่ 22%, Pantech ที่ 7% ก็ต้องรอดูว่าตัวเลขนี้จะเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ไหนหลังจากนี้
น่าสนใจว่าตอนนี้ Samsung กลับเป็นฝ่ายตกที่นั่งลำบาก แม้กระทั่งในบ้านเกิดที่แสนจะชาตินิยมของตัวเอง โดยคุณ Lee Seung-woo กล่าวว่า Samsung เสียความได้เปรียบของตัวเองจุดสำคัญคือหน้าจอใหญ่ไปเสียแล้ว หากย้อนไปก่อนหน้านี้ก็จะพบว่าคู่แข่งเพื่อนบ้านอย่าง LG ที่ส่ง LG G3 ลงตลาดก็มียอดขายแซง Galaxy S5 ในเกาหลีใต้ช่วงเปิดตัวเช่นกัน โดยในขณะที่ Samsung ใช้เม็ดเงินโปรโมต Galaxy S5 สูงมาก LG กลับใช้เม็ดเงินโปรโมต LG G3 ไม่มากสักเท่าไร แต่เน้นชูโรงที่ตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงคุณ Lee ยังวิเคราะห์ว่าทั่วโลกของ Galaxy Note 4 รวมกับ Galaxy S5 ในตลาดโลกเทียบกับ iPhone 6/6 Plus น่าจะทิ้งห่างกันออกไปอีก
รอดูต่อไปครับว่าประสบการณ์ทำจอใหญ่ 4 ปีของ Samsung จะแก้สถานการณ์อย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้
อัพเดต: ได้ทราบข่าวมาว่า Samsung นั้นได้จำกัดยอดจอง iPhone 6 ไว้ที่ 30,000 เครื่องเท่านั้น ฉะนั้นกรณีนี้อาจเทียบไม่ได้ตรงๆ นะครับ – MacRumors
ที่มา – WSJ
