เชื่อว่ายุคสมัยนี้ใครจะซื้อทีวีสักเครื่องคงต้องมองหา “สมาร์ททีวี” ที่มีความฉลาดกว่าแต่รับสัญญาณแล้วแสดงผลทั่วไป แต่ปัญหาของสมาร์ททีวีทั่วไปคือใช้ยาก ซึ่งตอนนี้ LG ได้เปิดตัวทีวีภายใต้แนวคิด “Making TV Simple Again” ด้วยระบบ webOS
รู้จักกับระบบ webOS
ย้อนกลับไปในยุคที่ PDA ของบริษัท Palm กำลังโด่งดัง ได้มีการพัฒนาระบบ webOS ขึ้นโดยใช้แนวคิดนำหน้าเว็บมาเป็นระบบหลักของการใช้งาน ต่อมา HP ได้เข้าซื้อ Palm และนำระบบ webOS มาเปิดเป็น Open Source ให้ใช้งานได้ฟรี (คล้าย Android)
- webOS ทำงานอยู่บนพื้นฐานของระบบ Unix เช่นเดียวกับ OS X ของแอปเปิล
- รองรับการทำงานหลายแอพพร้อมๆ กัน (Multitasking)
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ รองรับการเชื่อมอุปกรณ์เสริมผ่านทาง USB, Bluetooth, Wifi
- สามารถเขียนแอพเพิ่มเข้ามาได้ง่าย ลงแอพเพิ่มได้
- LG ได้นำระบบนี้มาพัฒนาต่อและเปลี่ยนหน้าจอการใช้งานใหม่หมด
- ระบบใหม่นี้เรียก LG webOS และถูกใช้ในทีวีรุ่นล่าสุดของบริษัท
เครื่องทีวี LG Smart TV
ทีมงานได้ตัวเครื่องที่ได้มาทดสอบมีขนาดจอ 32 นิ้ว ซึ่งความรู้สึกแรกหลังจากยกเครื่องออกมาจากกล่อง คือตัวเครื่องมีความเบามาก ความบางถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว แต่ฐานตั้งนั้นสูงน้อยไปซักหน่อย
ดีไซน์แนวขอบมน เครื่องบางพอสมควร แต่ที่รู้สึกได้คือเบามาก สามารถยกคนเดียวได้สะดวกแม้จอใหญ่ก็ตาม
มาพร้อมอุปกรณ์เสริมทั่วไปคือขาตั้ง, คู่มือ, รีโมท
แว่น 3 มิติมีมาให้จุใจถึง 4 อันเลยทีเดียว
แต่ที่น่าสนใจคือตัว Magic Remote สีดำวาวที่เพิ่มมาอีกตัวหนึ่ง ถือเป็นไฮไลท์ของการใช้งานระบบ LG webOS เลยทีเดียว ขนาดกำลังพอดีมือ น้ำหนักประมาณใช้เมาส์ทั่วไป
ด้านหลังเครื่องมีแผงเสียบสายเชื่อมต่อครบ ทั้งสาย LAN, AV, External Speaker, Cable
ด้านข้างเป็นช่องเสียบ HDMI มีให้ 3 พอร์ท และ USB อีก 3 พอร์ท
ทดสอบการใช้งาน LG webOS
มีสถิติระบุว่า 53% ของคนทั่วไปไม่รู้จักสมาร์ทฟังก์ชั่นในสมาร์ททีวีและ 75% คิดว่ามันยุ่งยากเกินไป ซึ่งจุดเด่นของ LG Smart TV คือใช้ระบบ webOS ซึ่งได้มีฟีเจอร์เพียบ แต่การใช้ง่ายมากๆ เราลองมาดูกันดีกว่าว่าใช้งานจริงแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไรบ้าง
เปิดเครื่องมาจะพบกับเจ้านกกำลังนอนหลับอยู่ ซึ่งเราต้องใช้ Magic Remote ปลุกมัน เป็นการทดสอบว่ารีโมทของเครื่องเราพร้อมใช้งานจริงหรือเปล่า
จากนั้นก็เริ่มติดตั้งใช้งานเครื่อง โดยเริ่มจากเลือกภาษา, เลื่อกการเชื่อมต่อกับ Wifi, กล่องรับสัญญาณต่างๆ
รูปภาพในช่วงติดตั้งน่ารักมากๆ แล้วก็ดูลื่นไหลดีไม่สะดุด ใช้เวลาไม่นานก็ติดตั้งเครื่องพร้อมใช้
ทีวีเลือกดูจากช่องของ TrueVisions แบบ HD ภาพคมชัดดี สีสันในค่าเริ่มต้นแสบตากว่าปกตินิดหน่อย แต่ก็สามารถปรับค่าได้ การเคลื่อนไหวจะออกแนวนุ่มๆ
เมนูในการติดตั้งค่าต่างๆ จะเป็นแถวสีเทา แล้วรายการทีวีที่เล่นอยู่ก็จะสีลดระดับลงไป อันนี้ดูสวยงามดี
ไฮไลท์คือการใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ webOS โดยเนื่องจากเป็นระบบที่สามารถลงแอพเพิ่มเติมได้ ทำให้แอพมีหลากหลายและจำนวนเยอะพอสมควร โดยปกติแล้วจะเลือกใช้งานได้ยาก
ระบบ webOS ของ LG เลยทำเมนูลอยขึ้นมาจากด้านล่าง ให้เราเลือกแอพต่างๆ ได้สะดวก หรือที่เรียกว่า Launcher โดยการเลือกแอพสามารถใช้ Magic Mouse ชี้ไปที่จะ แล้วจะมีตัวไอคอนลอยตามมือของเรา เลือกแอพได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้แอพต่างๆ ยังสามารถจัดเรียงได้ด้วยตัวเอง ชอบแอพไหนก็เอาไว้ข้างหน้าได้ ทำให้กดเข้าแอพง่ายขึ้นมาก
ทดลองเข้าแอพ YouTube คือสามารถเปิดดูคลิป, ละคร, เอ็มวี คุณภาพระดับ HD ผ่านทางทีวีได้เลย ไม่ต้องใช้กล่องอะไรเพิ่ม
Magic Remote นอกจากใช้บังคับเมาส์บนจอแล้ว ยังสามารถใช้เป็นไมค์สำหรับเสิร์ชข้อมูลด้วยเสียงได้ด้วยนะ แถมฟังภาษาไทยออกอีกตะหาก โดยเริ่มจากกดปุ่มไมโครโฟน แล้วบนจอจะขึ้นภาพให้เราพูดเพื่อค้นหาข้อมูล
ทดลองพูดใส่รีโมทคำว่า “เจาะข่าวตื้น” ก็มีข้อความแนะนำเลยว่าเราเสิร์ชคำนี้ใช่หรือเปล่า แปลว่าฟังออกดีเลยทีเดียว
แอพเริ่มต้นที่มากับเครื่องจะมีแอพของไทยอย่าง ช่อง 3, MThai คลิป, Major, GMM TV, You2Play, Doonung คือแอพเยอะพอสมควรเลยทีเดียว
หากต้องการโหลดแอพเพิ่ม สามารถใช้งานได้ที่ LG Store เลือกแอพแล้วโหดเพิ่มได้เลย มีทั้งแอพทั่วไปอย่าง Facebook, Twitter
นอกจากนี้ยังมีเกม, หนังสามมิติ ให้เราทดสอบแว่นตากันฟรีๆ เลยด้วย
ทดลองลงแอพ Facebook ติดตั้งได้ใน Click เดียว การใช้งานแปลกตาไปซะหน่อย
มีแอพที่ให้โหลดฟรีอย่าง “ดูหนัง” ก็เป็นแอพที่น่าสนใจ แถมมีโปรโมชันดูภาพยนตร์กว่า 5,000 ชั่วโมง ทั้งซีรีย์อินเตอร์ เกาหลีและหนังจีนกำลังภายใน ราคา 129 บาทต่อเดือน หรือวันละ 4 บาท สมัครสมาชิกผ่านระบบในเครื่องได้เลยด้วย
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
นอกจากตัว Magic Remote ที่จะใช้งานง่ายแล้ว เรายังสามารถควบคุมทีวีผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ด้วย โดยโหลดแอพ LG TV Remote for webOS มีทั้ง iOS และ Android
จากนั้นเมื่อเปิดแอพ เครื่องจะหา LG Smart TV ให้เอง สามารถใช้แทนรีโมทได้เลย
ทดลองเล่นเว็บผ่านทีวี จากเดิมที่ต้องกรอกพิมพ์ Link ยาวๆ บนจอ แต่ถ้าเราใช้แอพผ่านมือถือ จะมีคีย์บอร์ดมาให้พิมพ์เลย ใส่ข้อมูลได้เร็วมากขึ้น
การเล่นเว็บผ่านทีวีก็ทำได้ตามปรกติดี เหมือนใช้งานอยู่หน้าคอม จะโหลดช้ากว่าหน่อย แต่ก็สามารถใช้งานได้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ SmartShare ที่ให้เราแชร์ภาพ, หนัง, เพลง จากเครื่องอื่นๆ ไปขึ้นจอทีวีได้อีกด้วย โดยโหลดแอพ iMediaShare แล้วเข้าไปที่หน้าจอแชร์ข้อมูล จะมีให้เลือกทั้งรูป, หนัง, เพลง
เราสามารถเลือกภาพจากบนทีวีได้เลย โดยภาพที่เห็นจะเป็นภาพที่อยู่บนมือถือของเราเอง
สามารถแชร์วิดีโอได้ด้วย ถ่ายคลิปจากมือถือก็กดขึ้นจอใหญ่ได้ทันที
นอกจากแชร์ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแล้ว LG Smart TV ยังมีการเชื่อมต่อได้อีกมากมาย ทั้งเครื่องเล่นเกม, คอมพิวเตอร์, กล่องรับสัญญาณ หรือแม้แต่ External Hard Disk ก็สามารถต่อผ่าน USB ได้
ระบบ Simple Connection ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ทำได้ง่าย แค่เสียบสายเชื่อมต่อระบบก็จะ Auto Detect ขึ้นมาเลย แถมยังจดจำค่าต่างๆ ที่เคยใช้ในอุปกรณ์เหล่านั้นได้ด้วย เช่น External HDD, Home Theatre
ทดลองต่อกับ External HDD พบว่าพอเสียบสายเข้าไป ที่หน้าจอจะมีเตือนขึ้นมาว่ามีการเชื่อมต่อผ่าน USB นะ แล้วก็ให้เลือกสามารถเข้าไปแอพที่เกี่ยวข้องได้ กรณีนี้คือเข้าแอพ Smart Share เพื่อดูรูปภาพและวิดีโอข้างใน
หน้าจอจะขึ้นมาให้เลือก Folder เหมือนใช้งานคอมพิวเตอร์เลย และสามารถเลือกดูรูปหรือวิดีโอผ่านจอทีวีได้เลย
:: สรุป ::
ข้อดี
- ระบบ webOS ใช้งานง่าย ฟีเจอร์เยอะมาก แชร์ข้อมูลได้สะดวก
- ตั้งค่าต่างง่าย หน้าจอเป็นมิตรกับผู้ใช้มาก
- Magic Remote ช่วยบังคับหน้าจอได้ดี ระบบเสิร์ชด้วยเสียงรองรับภาษาไทย
- เชื่อมต่อได้หลากหลายมาก ทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, USB ฯลฯ
ข้อเสีย
- แอพเสริมใน Store หน้าตาและการบังคับต่างกัน หลายแอพยังใช้ยากอยู่
- webOS ยังมีอาการหน่วงๆ ให้เห็นเมื่อเปิดแอพที่ต้องโหลดข้อมูลเยอะ
- ฐานตั้งสั้นไปหน่อย
ทีวี LG Smart TV ที่ใช้ระบบ webOS มีฟีเจอร์ที่เยอะมากโดยเฉพาะการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต แอพสำคัญที่ใช้ดูหนังฟังเพลงอย่าง YouTube ใช้งานได้ดี สามารถสู้กับสมาร์ททีวีอื่นๆ ได้อย่างสบาย จุดเด่นที่สุดคือใช้งานง่ายมาก ไม่ซับซ้อน
ข้อเสียคือตัวเครื่องยังมีอาการประมวลผลช้าบ้างในการใช้งานหลายแอพพร้อมๆ กัน รวมถึงหลายแอพใน Store ยังใช้งานลำบากอยู่ แต่ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค และถ้าใช้งานแอพไม่มากเกินไป ก็จะไม่ทำงานช้านะ
แต่โดยรวมแล้วถือว่า LG เลือกทำทีวีได้ตามสโลแกนคือ “Make TV Simple Again” คือถึงจะเป็นสมาร์ททีวีที่ฟีเจอร์หลากหลาย แต่ก็ยังใช้งานง่าย ควบคุมง่าย และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดสมาร์ททีวีตอนนี้