เผยโฉมแล้ว! iPhone รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อว่า iPhone 5 มาพร้อมกับ A6 CPU, LTE ราคาเริ่มต้นที่ $199
ในที่สุดงาน Event ล่าสุดของ Apple ได้เริ่มแล้ว และนอกจากนี้ได้แนะนำผลิตภัณฑ์แรก นั่นคือ iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า iPhone 5 แน่นอนแล้วครับ
iPhone 5 ที่ปรากฏในงานนั้น รูปร่างลักษณะเป็นอย่างที่ข่าวลือกันก่อนหน้านี้ ซึ่งรายละเอียดคร่าวๆ มีดังนี้
- ตัวเครื่องที่ยาวขึ้นในขณะที่ความกว้างเท่าเดิม
- ตัวเครื่องทำจากวัสดุ 2 ชนิดด้วยกันคือ กระจกและอลูมิเนียม
- ตัวเครื่องมีความบางลงกว่า iPhone 4S ถึง 18% โดยมีความหนาอยู่ที่ 7.6 มิลลิเมตร
- ในเรื่องของน้ำหนัก iPhone 5 จะเบากว่าเดิมถึง 20% ซึ่งน้ำหนักจะอยู่ที่ 112 กรัม
- ขนาดหน้าจอนั้นใหญ่กว่า iPhone 4S โดยหน้าจอมีขนาด 4 นิ้ว
- หน้าจอของ iPhone 5 ยังเป็น Retina Display โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 1136×640,326 PPI,16:9 aspect ratio
- iPhone 5 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี 4G/LTE
- ใช้ชิบประมวลผล A6 สามารถทำงานได้เร็วกว่าและให้ภาพกราฟฟิคที่ดีกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่า
- iPhone 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ตัวใหม่สามารถใช้งานได้นาน เช่นคุยผ่าน 3G ได้ถึง 8 ชั่วโมง ดูวิดีโอได้นานถึง 10 ชั่วโมง ฟังเพลงได้นานถึง 40 ชั่วโมง
- iPhone 5 มาพร้อมกับกล้องที่มีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิเซล และสามารถถ่ายภาพในรูปแบบพาโนรามาได้
- กล้องหลังของ iPhone 5 สามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ HD 1080p และกล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ HD 720p
- iPhone 5 จะมีไมโครโฟนถึง 3 ตัว ได้แก่ ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านบน สำหรับรองรับการโทรศัพท์เสียงในระดับ HD นอกจากนี้ยังมีระบบกันเสียงรบกวนอีกด้วย
- Connector แบบใหม่ที่มากับ iPhone 5 จะมีขนาดเล็กลง เรียกมันว่า Lightning และจะมาพร้อมหัวแปลงเพื่อให้สามารถใช้งานกับ Connector แบบเก่าได้
- iPhone 5 มีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกันคือ ดำและขาว
ราคาของ iPhone 5 นั้นจะเริ่มที่ $199 ซึ่งรายละเอียดดังนี้
- $199 สำหรับ iPhone 5 ความจุ 16GB
- $299 สำหรับ iPhone 5 ความจุ 32 GB
- $399 สำหรับ iPhone 5 ความจุ 64 GB
iPhone 5 จะเริ่มวางขายในวันที่ 21 กันยายนนี้ โดยประเทศกลุ่มแรกที่จะเริ่มวางขายมี US, Canada, UK, France, Germany, Australia, Japan, Hong Kong, Singapore และสามารถเริ่ม pre-order ได้ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนนี้ครับ
ทั้งนี้ ข้อมูลข้างต้นเป็นการแจงรายละเอียดคร่าวๆ ทางทีมงานจะมาสรุปรายละเอียดผลิตภัณฑ์อีกครั้ง เร็วๆ นี้
ที่มา – The Verge live blog
