เจาะลึกเทรนด์ปี 2016 เมื่อเทคโนโลยี 4G LTE-A เตรียมพร้อมบุกไทยแล้ว !!
4G LTE Advanced เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าจับตาที่สุดในไทยประจำปี 2016 นี้ หลังจากที่ค่ายมือถือต่างแข่งขันกันอย่างหนัก พร้อมทั้งการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz และ 1800 MHz ที่เพิ่งจบไปมีการแข่งขันอย่างดุเดือด
แต่เชื่อว่าหลายคนยังสงสัยอยู่ว่า แล้วตกลง 4G LTE Advanced (LTE-A) นี่มันคืออะไร ? เป็นเหมือนที่โฆษณากันรึเปล่า วันนี้เรามาเจาะลึกเทคโนโลยีนี้กันดีกว่า
รู้จักกับ 4G LTE-A พร้อมบุกตลาดไทยเต็มตัวแล้ว
เมื่อ 4G LTE คือความเร็วที่สูงอย่างที่ค่ายมือถือโฆษณากัน แล้ว 4G LTE Advanced คืออะไร ? คำตอบก็คือการพัฒนาให้ความเร็วที่สูงยิ่งกว่า 4G LTE ขึ้นไปอีกนั่นเอง ซึ่งอธิบายง่ายๆ ดังนี้
- 4G LTE Advanced คือเทคโนโลยีล่าสุดของ LTE ที่เจ๋งกว่าทั้งเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูล รวมทั้งระยะของการใช้งานอีกด้วย
- Carrier Aggregation หรือ CA เป็นการเอาคลื่นความถี่ที่ต่างกันหลายคลื่นมาทำงานร่วมกัน เช่น 900MHz + 1800MHz ทำให้ยิ่งมีคลื่นมากยิ่งทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
เมื่อรวมทั้ง 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน เราก็จะได้ 4G LTE-A ที่ความเร็วสูงกว่า 4G เดิมถึง 3-5 เท่า แถมยังรองรับการใช้งานที่ไกลมากขึ้นกว่าเดิมซะด้วย ลองชมวิดีโอด้านล่างจะเข้าใจมากขึ้น
มาตรฐาน LTE-A ในต่างประเทศ
ความเร็วแรงของ LTE-A นั้นสูงเอามากๆ และตอนนี้ก็มีใช้แล้วในหลายประเทศทั่วโลก เช่น
- สหรัฐอเมริกา : AT&T เปิดใช้ LTE-A กับคลื่น 700 MHz + 1,700 MHz จนได้ความเร็วสูงถึง 110 Mbps
- ญี่ปุ่น : NTT DoCoMo เปิดใช้ LTE-A กับคลื่น 1,700 MHz + 800 MHz จนได้ความเร็วสูงถึง 225 Mbps
- สิงคโปร์ : SingTel เปิดใช้ LTE-A กับคลื่น 1,800 MHz + 2,600 MHz จนได้ความเร็วสูงถึง 300 Mbps
เมื่อ LTE-A เปิดใช้งานในไทยแล้ว
สำหรับบริการ 4G ในไทยนั้น เริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนโดย TrueMove H เป็นรายแรก ต่อมาก็เป็นทาง DTAC และ AIS เปิดตัวมาตามลำดับ ซึ่งบริการ LTE-A นั้น ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วมาตรฐาน 4G LTE Advanced เริ่มเปิดใช้ในเมืองไทยแล้ว โดยข้อมูลที่น่าสนใจจาก Wikipedia ระบุว่า
- TrueMove H (3CA) : เปิดใช้ LTE-A กับคลื่น 900 MHz + 1800 MHz + 2100 MHz (ความกว้างเท่ากันหมดที่ 10MHz) ทำให้ความเร็วสูงสุดที่ 225 Mbps
- DTAC (2CA) : เปิดใช้ LTE-A กับคลื่น 1800MHz + 2100MHz (ความกว้างเท่ากันหมดที่ 10MHz) ทำให้ความเร็วสูงสุดที่ 150Mbps
- AIS (2CA) : เปิดใช้ LTE-A กับคลื่น 1800MHz (ความกว้าง 15 MHz) + 2100MHz (ความกว้าง 10 MHz) ทำให้ความเร็วสูงสุดที่ 150Mbps
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการใช้เทคนิคพิเศษอื่นๆ เช่น MiMO เพื่อเป็นการเพิ่ม Antenna เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล ซึ่งในไทยก็มีใช้ 2×2 MiMO และ 4×4 MiMO ซึ่งจะทำให้ได้ความเร็วเพิ่มขึ้นไปอีก ยกตัวอย่างเช่นถ้า TrueMove H ที่ใช้คลื่นทั้ง 3 ช่วงมาทำ 3CA บวกกับ 4×4 MiMO ก็จะสามารถทำ 4G Advanced ได้ระดับความเร็วสูงสุดถึง 300 mbps รายเดียวในไทย จะเห็นว่าการจะเพิ่มความเร็วระดับนี้ต้องมีคลื่นในมือที่มากพอ
ถ้าเราจำกันได้ตอนที่เมืองไทยมีการเปิดใช้ 3G เราก็จะเริ่มเห็นแต่ละค่ายพยายามเปิดตัวความเร็วที่เหนือกว่าขึ้นไปอีกนั่นคือ 4G มาถึงวันนี้เมื่อทุกค่ายมี 4G กันหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องแข่งขันกันบนความเร็วที่เหนือขึ้นไปอีก นั่นคือ 4G LTE Advanced
ซึ่งถ้าการแข่งขันไปอยู่ที่ LTE-A จริง คนที่ได้เปรียบสุดคือต้องมีคลื่นในมือให้ได้มากที่สุด ซึ่ง TrueMove H ที่นำคลื่นมาทำ LTE-A ได้ถึง 3CA รวมกับการใช้ 4×4 MiMo ทำให้มี 4G ที่ได้ความเร็วสูงสุดถึง 300mbps ซึ่งเท่าที่เห็นตอนนี้ คงมีแต่ TrueMove H เท่านั้นที่มีโอกาสทำความเร็วสูงสุดได้ระดับนี้ ส่วนที่รองลงมาคือ AIS ที่ทำ 2CA แต่ความกว้างของคลื่นมากกว่า DTAC ที่ทำ 2CA เช่นกัน
เชื่อว่าไม่นานเกินรอเราจะได้เห็นสมรภูมิที่เดือดขึ้นเป็นอย่างมาก และคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือผู้ใช้อย่างเรานี่เอง
ข้อมูลจาก – Wikipedia, Veedvil, Nokia
