เปิดตัวแล้ว!! iPhone รุ่นพี่นามใหม่ iPhone 6 Plus พร้อมกับชิป A8 ราคาเริ่มต้นที่ $299 วางขาย 19 กันยายนนี้
iPhone อีกหนึ่งรุ่นที่ Apple เปิดตัวนั้นตั้งชื่อให้ว่า “iPhone 6 Plus” ซึ่งการออกแบบใหม่เช่นเดียวกับ iPhone 6 แต่มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ขนาดของตัวเครื่องบาง และมาพร้อมกับชิปใหม่ Apple A8 64 bit ราคาเริ่มต้นที่ $299
iPhone 6 Plus เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ Apple นำมาโชว์ซึ่งมีหน้าจอ 5.5 นิ้ว มีการออกแบบใหม่เช่นเดียวกับ iPhone 6 แต่ตัวเครื่องจะใหญ่กว่า นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีการออกแบบให้มีความโค้งมนดูหรูหรามีสไตล์อีกเช่นกัน สามารถใช้งานใน Landscape mode ได้เหมือน iPad
สรุป spec ของ iPhone 6 Plus มีดังนี้
- ขนาดของตัวเครื่องมีความหนาเพียง 7.1 มิลลิเมตร ยาว 158.1 มิลลิเมตร และกว้าง 77.8 มิลลิเมตร
- หน้าจอ Retina HD ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 1,920 x 1,080 พิกเซล (401 ppi)
- ปุ่ม Power ย้ายไปอยู่ด้านข้าง (ขวา) ของตัวเครื่อง
- ชิปประมวลผล Apple A8 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า Apple A7 ประมาณ 17% ประมวลผลเร็วขึ้นกว่าเดิม 25% และส่วนกราฟิกประมวลผลเร็วขึ้นถึง 50%
- มีชิปประมวลผล M8 สำหรับจับการเคลื่อนไหวโดยความสามารถจับการเคลื่อนไหวระหว่างการขับขี่จักรยาน การวิ่ง สามารถจับระยะทางและระดับความสูงได้อีกด้วย
- รองรับ 4G LTE ที่ความเร็ว 150 Mbps ในถึง 20 คลื่นความถี่
- รองรับ Voice Over LTE, รองรับระบบ Wi-Fi ที่เร็วกว่าเดิมสามเท่า, รองรับ Wi-Fi Calling คือเราสามารถโทรหากันผ่าน Wi-Fi ได้เลย
- กล้องหลังมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลซึ่งเท่ากับ iPhone 5s แต่มีการปรับปรุงหน้าเลนส์และการรับแสงที่ดีขึ้น พร้อมระบบชดเชยภาพ
- ปรับปรุงความสามารถในการบันทึกวิดีโอแบบ Slo-Mo ที่ความเร็ว 240 FPS (เดิม 120 FPS)
- แบตใช้ได้นานขึ้น Standby ได้ 16 วัน (iPhone 5s รองรับ Standby 10 วัน)
- มี 3 สีให้เลือก Space Grey, Silver และ Gold
สรุป ราคาของ iPhone 6 Plus
- $299 สำหรับ iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB
- $399 สำหรับ iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB
- $499 สำหรับ iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB
(ราคานี้เป็นราคาที่พ่วงมากับสัญญา 2 ปีครับ)
ส่วน iPhone 5s หั่นราคาลงเหมือนเริ่มที่ $99 พ่วงสัญญา 2 ปี และ iPhone 5c นั้น Apple แจกฟรีกันไปเลย แต่มีของแถมคือสัญญา 2 ปีอีกเช่นกันครับ
iPhone 6 Plus จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 19 กันยายนนี้ และเปิดรับจองวันที่ 12 กันยายนเหมือน iPhone 6 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนนี้ โดยกลุ่มประเทศแรก ได้แก่ US, France, Canada, Germany, Hong Kong, Singapore, United Kingdom, Australia, และ Japan แน่นอนยังไม่มีประเทศไทย และจะวางจำหน่ายอีก 115 ประเทศในสิ้นปีนี้
ที่มา – The Verge Live Blog