มีคนเคยบอกไว้ว่าผู้หญิงที่น่ารักต้องเข้าครัวเก่ง แต่ผู้หญิงที่น่ารักกว่าต้องทำขนมเค้กเป็นด้วย ซึ่งในขณะที่เรากำลังคิดถึงนางแบบ MacThai ในธีมขนมเค้ก ก็โชคดีเหลือเกินที่เราได้พบกับ “น้องอร” แห่ง Swan by Onz : Homemade Bakery
ซึ่งนอกจากน้องอรจะทำงานประจำแล้ว ยังแบ่งเวลามาทำขนมเค้กสูตรต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้ชิม จนเริ่มมีคนสั่งออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ จนตอนนี้ต้องเปิดเป็น Fanpage ขึ้นมากันอย่างจริงจังกันเลยทีเดียว ทีมงานเลยนึกสนุกว่าแทนที่เราจะถ่ายแบบน้องอรแบบปกติ เรามาทำเค้กจริงๆ กันเลยดีกว่า !!
MacThai : อยากให้น้องอรช่วยแนะนำตัวนิดนึงครับ
น้องอร : ชื่ออรนะคะ เรียนจบวิศวะคอมพิวเตอร์ ที่พระจอมเกล้าธนบุรี ได้งานที่ DST ตั้งแต่เรียนไม่จบ แล้วก็ทำงานที่นี่เลย ที่นี่เป็นที่แรก ทำมาประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ เป็น QA
MacThai : เป็นผู้หญิงทำไมสนใจเข้าไปเรียนวิศวะ
น้องอร : คือจริงๆ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเรียนคอม ไม่ได้อยู่ในหัวเลยตอนแรก แต่เคยอยากเรียนถาปัดแต่พ่อไม่อยากให้ทำงานหนัก เรียนหนักจนเกินไป เลยคุยกับแม่ว่าอยากเรียนด้านคอม อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับคอม เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่อรรู้สึกว่าอรเรียนรู้และทำความเข้าใจกับมันด้วยตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งใครเลย
MacThai : ปกติแล้วคนเรียนวิศวะมักเป็นผู้ชาย เวลาเรียนมีปัญหาไหม
น้องอร : จริงๆ เพื่อนผู้ชายเยอะก็เป็นข้อดีนะคะ พอเพื่อนผู้ชายเยอะ เราเป็นผู้หญิงในกลุ่ม เวลามีอะไรเค้าก็จะช่วยเหลือเราได้ พอเรียนวิศวะคอมก็จะมีงานทำแลป มันอาจจะต้องทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย มีบัดกรี อะไรอย่างนี้ ผู้ชายเค้าก็จะช่วยเหลือเราได้
Q: มีคนบอกว่าชอบทำขนมจะอ้วน จริงไหม ?
A: ตอบได้เลยว่า … จริงค่ะ !!
MacThai : อะไรที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิศวะคอมพิวเตอร์
น้องอร : อันดับแรก อรอยากตอบคำถามมากเลย คนจะชอบเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิศวะคอม คืออึดอัดใจมาก คนมักเข้าใจผิดว่า แล้วบอกว่า “เรียนวิศวะคอมเหรอ ลง iOS ให้หน่อยสิ, แกมาดูให้หน่อยสิ เครื่องมีไวรัสป่าว ช่วยมาเอาออกให้หน่อย, Internet มีปัญหา ฯลฯ” เอ่อ…. มันไม่ใช่ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย
ปัญหาอะไรก็ตามที่เค้าเจอในคอม เค้าจะมาเรียกเรา เค้าจะมองว่าเราเป็นช่างซ่อมคอมไปแล้ว เราจะบอกว่าไม่ใช๊ ที่เราเรียนมาไม่ใช่แบบนั้น
MacThai : มีอะไรอยากจะแนะนำน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ไหมครับ
น้องอร : จะฝากบอกน้องๆ ที่จะมาเรียนด้านนี้ว่า อยากให้น้องๆ ลองค้นหาตัวเองดูก่อนว่าเราชอบมันจริงๆ หรือเปล่า ถ้าชีวิตเราจะต้องอยู่กับมันไปตลอด เรารับมันได้ไหม
ถ้าเราเลือกสาย Programming วิทยาศาสตร์คอมน่าจะเก่งกว่าด้วยซ้ำ เพราะจากที่เรียนมาวิศวะคอมจะไม่ได้เน้น Programming เลยทีเดียว เราจะเป็นทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับคอม ทั้ง Network, Hardware, Software มันจะครอบคุลมทุกๆ เรื่อง ใครพูดอะไรก็เข้าใจ แต่ถ้าถามว่าเรารู้ลึกแค่ไหน อันนี้มันอยู่ที่ตัวเราเองแล้ว
ความสุขที่สุดของการทำขนมเค้ก คือเมื่อเราได้เห็นคนทานแล้วชอบ
เวลามีคนสั่งออเดอร์รายการเดิมเข้ามาบ่อยๆ จะปลื้มมากค่ะ
MacThai : ผู้หญิงถ้าทำงานด้านคอมส่วนใหญ่ชอบทำ QA เพราะอะไรครับ
น้องอร : ผู้ชายก็มีนะ ตอนนี้ก็เยอะครี่ง/ครี่งเลย ผู้หญิงอาจจะทำได้ดีกว่าเพราะด้วยนิสัยส่วนตัว ผู้หญิงชอบจู้จี้ จุกจิก กับรายละเอียดได้มากกว่า ผู้ชายจะมองอะไรกว้างๆ ส่วนผู้หญิงจะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า เวลาทำงานด้าน QA Document ก็สำคัญ เวลาทำงานถ้าเราทำ Document ออกมาให้ดี อ่านง่าย สบายตา ก็เป็นข้อดีไป
Dev (Developer) ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เวลาเราไปขอความช่วยเหลือจะง่ายกว่าผู้ชายไปขอ “พี่คะ ช่วยแก้ให้หน่อยได้ไหมคะ” เราก็จะพูดออดอ้อนได้ ถ้าเป็นผู้ชายพูดขนลุกเลยไหมคะ 55
MacThai : มีอะไรที่คนชอบเข้าใจผิดเกี่ยวกับงาน QA ไหม
น้องอร : บางทีได้ยินรุ่นน้องพูดว่างาน QA มาจับผิด Dev จริงๆ ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ คือในมุมมอง Dev อาจจะรู้สึกอย่างนั้นว่าเราไปจับผิดเขา แต่จริงๆ แล้วหน้าที่ของเรา QA ชื่อก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว Quality Assurance เราทำหน้าที่เสมือนลูกค้า คอยตรวจว่าคุณภาพของงานมันดีพอที่จะส่งไปถึงมือลูกค้า ไม่ทำให้เราทุกๆ คนในบริษัทหน้าแตก น่าจะเป็นการช่วยกันทำงานมากกว่าค่ะ
เรียนวิศวะคอมไม่ใช่ช่างซ่อมคอมนะคะ คนชอบให้เราลง iOS ลง Windows
จริงๆ ที่เรียนมามีมากมายกว่านั้นเยอะค่ะ
MacThai : เห็นว่าชอบทำขนมตั้งแต่ ม. 6 แล้ว ทำเล่นหรือทำแบบไหนครับ
น้องอร : จริงๆ อรเคยส่งประกวดทำอาหาร แกะสลัก ร้อยพวงมาลัย เป็นตัวแทนโรงเรียนส่งเข้าประกวด เป็นจุดเริ่มต้นให้เราสนใจ งานด้านนี้ เราคลุกคลีอยู่ในครัว คหกรรมมาตลอด
ส่วนทำขนมเริ่มตอน ม. 6 เหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน คืออยากเรียกเรตติ้ง ครั้งแรกทำแล้วเอาไปให้พี่ที่มหาลัย คือไปแจก ตอนเข้าไปอรได้โควตา มีที่เรียนตั้งแต่ยังไม่จบ ม. 6 เค้าจะมีจัดมิ้งติ้ง พี่รหัสเริ่มเจอกันบ้างแล้ว เราก็อยากเรียกเรตติ้ง เลยทำขนมไปแจก รุ่นพี่ก็แบบว่า “น้องอรทำขนมเป็นด้วยเหรอ” เราก็จะโด่งดังขึ้นมาทันที อยากฝากน้องๆ ว่าเสน่ห์ปลายจวักใช้ได้เสมอ
MacThai : เหมือนเริ่มทำจริงๆ เมื่อประมาณปีที่แล้ว ทำประมาณไหน
น้องอร : ตอนนั้นจะเริ่มจริงจัง แหมปีใหม่พอดี โบนัสออก เลยไปถอยเตาอบมา 1 เครื่อง แล้วก็ซื้ออุปกรณ์ เริ่มง่ายๆ โดยเริ่มจากบราวนี่ซีสเค้กก่อน เป็นบราวนี่ข้างบนเป็นหน้าชีส ตอนนั้นหัดทำเลยอยากฟังคำติชมว่าฝีมือเราพอจะกลืนลงคอได้ไง เลยเอาไปให้พี่ๆ ที่ทำงานชิม เสียงตอบรับก็ดีค่ะ มีทั้งติและชม พร้อมคำแนะนำ เราก็มาลองปรับเรื่อยๆ พอทำบ่อยๆ เราก็จะเริ่มรู้เทคนิคว่าเราต้องแก้ไขอะไรบ้าง
เวลาโพสรูปขนมเค้กดึกๆ สัก 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม จะมีคนมา Like เร็วมาก
แถมออเดอร์เข้ามาเพียบเลยค่ะ 5555
MacThai : อะไรเป็นจุดที่ยากที่สุดของการทำเค้ก
น้องอร : ด้วยความที่อรใช้เตาอบแบบไฟฟ้า บางทีอุณหภูมิมันเชื่อถือไม่ค่อยได้ และควบคุมอุณหภูมิยาก ต้องคอยมาเช็คเรื่อยๆ เพราะการทำเค้กเรื่องอุณหภูมิสำคัญมาก
MacThai : มีคนบอกว่าชอบทำขนมจะอ้วน จริงไหม
น้องอร : จริงนะ 555 เพราะหลังจากที่ทำขนมขายได้ 3 เดือน น้ำหนักขึ้นมา 5 กก. เลย ยิ่งครั้งแรกๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มขาย ก็ทำเอง ชิมเอง
MacThai : จากที่เคยทำมา อะไรทำยากที่สุด
น้องอร : น่าจะเป็นพวกชีสเค้กแบบอบ มันทั้งเรื่องอุณหภูมิและเทคนิคในการตี ถ้าตีมากไปหรือนานไป ด้วยความที่ชีสเค้กมีส่วนประกอบจากไข่เยอะ โปรตีนเยอะ พอเราตีมากๆ ออกซิเจนเข้าไป มันจะทำให้เนื้อเค้กมีฟองอากาศเยอะ จะไม่สวย เนื้อจะเป็นรูเยอะๆ ไม่ค่อยอร่อยๆ ค่ะ พอตัดจะรู้เลยว่าเนื้อมันไม่แน่น ถ้าตีมากไปเสียก็เสียเลย ก็ต้องทิ้งแล้วตีใหม่ค่ะ
MacThai : อะไรคือขนมที่ขายดีสุดครับ
น้องอร : Red Velvet แต่ส่วนใหญ่อรจะไม่ทำเป็นคัพเค้ก อรจะทำเป็นเค้กปอนด์แล้วตัดเป็นชิ้น ก็ Red Velvet กับชีสเค้กแหล่ะค่ะ ที่ขายดีสุด คนจะชอบมาก
หน้าที่ของ QA ไม่ใช่มาจับผิดคนเขียนโปรแกรม
แต่เรามาช่วยดูแลคุณภาพก่อนจะส่งถึงมือลูกค้ามากกว่าค่ะ
MacThai : ทำไมอยู่ดีๆ ตั้งแฟนเพจขึ้นมา
น้องอร : ส่วนใหญ่จะเป็นคนรอบข้างนี่แหละค่ะ ทั้งเพื่อน คุณแม่ พี่ บอกเราว่าไม่ลองทำขายดูล่ะ พอเราคิดว่าจะทำขาย การที่เราจะไปวางขายหน้าร้านก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะเราก็ทำงานประจำ เลยเลือกช่องทางสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา เลยตั้งเฟสบุ๊คแฟนเพจ พอตั้งขึ้นมาทุกคนก็สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของเราได้ตลอดเวลา
MacThai : มีวิธีโปรโมตยังไงบ้าง
น้องอร : ก็ใช้เพื่อนค่ะ บอกเพื่อนว่ากด Like ให้หน่อยสิ เพื่อที่จะขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ฐานลูกค้าของเราก็จะได้ใหญ่ขึ้น ต้องเลือกเวลาแชร์ด้วย อันนี้สำคัญมาก อย่างของกินหวานๆ ครีมเยอะๆ โพสตอนเช้าก็ไม่จูงใจเท่าไหร่ เพราะคนคงยากกินของคาวมากกว่า
อรจะโพสดึกๆ สัก 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม Like มาเร็วมาก เพื่อนก็จะมาบ่นว่าแกทำฉันหิว สั่งเลยแล้วกัน 2 ชิ้นนะพรุ่งนี้ ได้ผล 55
MacThai : อะไรคือความสุขของการทำขนมครับ
น้องอร : เวลาที่มีคนชอบขนมเรา ชื่นชมให้เราได้ยินว่าอร่อย ชอบมากเลย เราอยากได้ยิน Feedback กลับมา แม้มันจะเป็นข้อดีหรือไม่ดีก็ตาม คือจะดีใจมากที่เค้าชอบแล้วสั่งอีกเรื่อยๆ ก็จะมีเพื่อนบางคนจะทานเมนูเดิมซ้ำๆ บางทีก็มีแบบเหมาหมดเลย บอกชอบมากเลย ทานที่อื่นก็ไม่เหมือนที่อรทำ มันจะปลื้มใจว่า เฮ้ยยย เราทำอร่อยขนาดนี้เลยเหรอ
ชอบใช้สินค้า Apple เพราะใช้ง่ายดี หน้าตาก็สวย เรียบง่ายแต่ดูดีค่ะ
MacThai : ได้ยินว่าใช้สินค้า Apple หลายตัวเลย มีอะไรบ้าง
น้องอร : จริงๆ ชิ้นแรกที่เคยมีแต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว เป็น iPod Nano รุ่นที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆ มีจอ อ้วนๆ ดำๆ นอกจากนั้นก็มี iPod Touch, iPhone4s, iPad Mini, Macbook Pro
MacThai : ทุกวันนี้ใช้อะไรบ่อยสุด เพราะอะไร
น้องอร : น่าจะใช้ iPhone บ่อยสุดค่ะ เหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะร่างกายไปแล้ว ปกติก็เอาไว้ติดต่อสื่นสาร Chat ถ่ายรูปขนมตัวเอง เราใช้ iPhone ถ่ายรูปขนมทุกอย่างลงในแฟนเพจ, IG ผ่านหลายๆ แอพแล้วก็โพสได้เลย
MacThai : ทำไมเราถึงซื้อสินค้า Apple เรื่อยๆ
น้องอร : ก็อาจจะเป็นจากครั้งแรกที่จับ เรารู้สึกชอบ รู้สึกว่าสะดวก ใช้งานง่าย หน้าตาก็สวย ทั้งตัวเครื่องและ UI น่าใช้ มันเรียบง่ายแต่ดูดีค่ะ
MacThai : ฝากอะไรถึงคนที่เข้ามาดู
น้องอร : ถ้าใครหิวขนม หรือรู้สึกอยากทานขนมก็เข้ามาที่แฟนเพจอรได้นะคะ Swan by Onz ค่ะ คุณก็จะพบกับขนมมหาศาลมากมายที่จะทำให้คุณหิวตอนดึกๆ จุดเด่นคือ อรจะไม่ค่อยชอบทำขนมที่เค้าทำกันค่ะ อย่างบางที Peanut Butter Cake แล้วก็รับประกันความอร่อย รับประกันด้วยน้ำหนักตัวเอง 55
Model : วรรณรัตน์ บุญรัตนกรกิจ (อร)
การศึกษา : วิศวะคอมพิวเตอร์ ที่พระจอมเกล้าธนบุรี
ทำงาน : Quality Assurance – IFDS
Twitter : @wannarat_b
Fanpage : Swan by Onz
Photo by : MemoLikePhoto
พบกับอัลบั้มภาพสวยๆ ของน้องอร ได้ที่ MacThai Fanpage
[portfolio_slideshow id=16384]