เผยเทคโนโลยีเบื้องหลังระบบควบคุมรถอัจฉริยะ Apple CarPlay ทำได้อย่างไร
แอปเปิลเปิดตัวระบบเปิดตัวระบบ CarPlay ซึ่งทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถนำ iPhone มาเชื่อมต่อกับระบบควบคุมบนหน้าจอ และให้ความบันเทิงภายในรถได้สมบูรณ์แบบ โดยจะเริ่มมีในรถยนต์หลายรุ่นในปีนี้
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ในเมื่อรถยนต์แต่ละแบรนด์ก็มีระบบควบคุมที่ต่างกัน แถมในรุ่นเดียวกันก็ยังมี Option ให้เลือกมากมาย การจะทำระบบควบคุมให้สามารถใช้งานได้บนรถที่มีความหลากหลายเป็นเรื่องที่ยากมาก แล้วแอปเปิลทำได้อย่างไร ?
คำตอบคือแอปเปิลเลือกใช้ระบบที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยที่ชื่อ AirPlay
- บนหน้าจอแสดงผลของรถแต่ละคัน จะแสดงหน้าขอที่คล้ายกับ iOS โดยเกินจากการส่งสัญญาณ AirPlay Mirror จาก iPhone ไปที่จอภาพ
- ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่เราสามารถส่งหน้าจอ iPhone, iPad, Mac ไปบน Apple TV ผ่าน AirPlay Mirror ได้
- จอภาพบนรถสามารถเลือกแสดงผล CarPlay แบบเต็มจอทั้งหมด หรือแค่บางส่วนของหน้าจอได้ เช่น Volvo เลือกแสดงผลด้านบนของจอ ส่วนด้านล่างยังมีระบบปรับแอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในรถโชว์ไว้อยู่
- ภาพที่โชว์บนจอถูกส่งด้วยมาตรฐาน H.264 video stream จาก iPhone
- เทคโนโลยี AirPlay สามารถใช้ได้กับทั้งต่อสาย USB หรือผ่านทาง Wifi ซึ่งตอนนี้รถรุ่นที่ไม่มี Wifi ข้างใน จะต้องต่อสาย USB เพื่อเชื่อมต่อระบบอยู่
- สำหรับค่ายรถยนต์ หากต้องการให้ CarPlay มีแอพของค่ายตัวเองขึ้นบนจอด้วย ก็เพียงสร้างแอพขึ้นมารองรับ iOS เช่นของ Mercedes-Benz จะเห็นว่ามีแอพของตัวเองเพิ่มเข้ามาด้วย
- รองรับการควบคุมผ่านจอ หรือผ่านเสียงด้วย Siri
- ด้วยเทคโนโลยีนี้ เป็นไปได้ว่าอนาคตจะสามารถใช้ CarPlay ผ่านทาง iPad หรือ iPod Touch ได้ด้วยเช่นกัน
ข้อจำกัดของ AirPlay Mirror บน Apple TV คือเป็นการแสดงผลทางเดียว เมื่อแสดงผลจอเครื่องบนทีวีเราจะไม่สามารถควบคุมผ่านทางหน้าจอทีวีโดยตรงได้ แต่กับระบบ CarPlay นอกจากจะแสดงผลหน้าจอบนรถยนต์ได้แล้ว เรายังสามารถควบคุมการใช้งานผ่านทางจอสัมผัสได้อีกด้วย
สำหรับรถยนต์ที่เปิดตัวพร้อม CarPlay ในงาน Geneva Motor Show นี้มี Ferrari, Mercedes-Benz และ Volvo ส่วนบริษัทรถยนต์รายอื่นที่ยืนยันจะมีระบบ CarPlay นี้ใส่เข้ามาด้วยเช่นกันในอนาคตคือ BMW, Chevrolet, Honda, Hyundai, Jaguar, Land Rover, Kia, Mitsubishi, Nissan, Peugeot, Citroën, Subaru, Suzuki และ Toyota
ที่มา – Apple Insider